รัฐสภาสโลวาเกียปฏิเสธแผนการเพิ่มขนาดกองทุนสร้างเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งส่งผลให้ความพยายามของยุโรปในการแก้ไขวิกฤตหนี้ต้องมาสะดุดอีกครั้ง เนื่องจากกองทุนกู้วิกฤตยุโรปดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับฉันทามติจากทั้ง 17 ประเทศยูโรโซนจึงจะมีผลบังคับใช้ได้
หลังจากอภิปรายกันนานถึง 10 ชั่วโมง ในที่สุดรัฐสภาสโลวาเกียก็มีมติไม่อนุมัติแผนการเพิ่มขนาดกองทุน โดยสมาชิกสภาที่ลงคะแนนรับรองแผนการดังกล่าวมีเพียง 55 เสียง ซึ่งน้อยกว่าที่กำหนดไว้ 76 เสียง อยู่ถึง 21 คะแนน
นอกจากนี้ การที่แผนการดังกล่าวไม่ผ่านการลงมติของรัฐสภายังส่งผลให้รัฐบาลสโลวาเกียต้องล่มลงโดยอัตโนมัติ เพราะการโหวตแผน EFSF ในครั้งนี้มีความเชื่อมโยงกับการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจรัฐบาล
นาย อิเวตา ราดิโควา นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย กล่าวต่อรัฐสภาก่อนการลงคะแนนว่า "ผมขอร้องให้ท่านทั้งหลายเชื่อใจรัฐบาลชุดนี้ว่าจะดูแลการคลังสาธารณะด้วยความรับผิดชอบ และจะไม่มีวันยักยอกเงินภาษีประชาชน ชื่อเสียงของสโลวาเกียเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด"
ทั้งนี้ สโลวาเกียยังคงเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่อนุมัติแผนการดังกล่าว หลังจากที่อีก 16 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนได้โหวตรับแผนการเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือไปกันหมดแล้ว
อย่างไรก็ดี นายอิวาน มิคลอส รัฐมนตรีคลังกล่าวว่า ค่อนข้างมีความเป็นไปได้ว่ารัฐสภาจะผ่านแผนการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ในการลงมติครั้งที่สอง ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นภายในสัปดาห์นี้ พร้อมกับแสดงความเห็นว่า ในสโลวาเกียนั้น ประเด็น EFSF มีเรื่องการเมืองเข้ามาปะปนมากเกินไป
พรรคฝ่ายค้านหลักของสโลวาเกียระบุว่า ทางพรรคเต็มใจที่จะเจรจาหารือเพื่อให้การสนับสนุนกองทุน EFSF ภายหลังจากการล่มสลายของรัฐบาล และประกาศว่า การอนุมัติแผนการดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญสุดสำหรับพรรคหลังจากนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน