นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กระทรวงฯ ดูแลราคาสินค้าทั้งหมด เพื่อไม่ให้ผู้ผลิต หรือผู้ค้าฉวยโอกาสกักตุนและปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลในช่วงน้ำท่วม โดยเฉพาะสินค้าจำเป็นที่ต้องใช้ในช่วงน้ำท่วม ทั้งทราย, ถุงบรรจุทราย, เรือท้องแบน, เครี่องยนต์(ใช้ติดเรือ) เสื้อชูชีพ, ไฟฉาย, แบตเตอรี่ ซึ่งได้สั่งให้กรมการค้าภายในกำหนดราคาแนะนำสำหรับขายปลีกไว้แล้ว หากผู้ค้ารายใดฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือกักตุนสินค้าจะมีโทษสูงสุดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ราคาขายสินค้าดังกล่าวไม่ควรเกินกว่าราคาในปัจจุบัน โดยทรายไม่ควรเกินคิวละ 450-500 บาท จากเดิมอยู่ที่ 300-400 บาท, ถุงบรรจุทราย ขนาด 25 กก. ควรอยู่ที่ 3 บาท/ถุง ซึ่งขณะนี้หมดแล้ว ส่วนขนาด 50 กก. ราคา 7 บาท/ถุง ยังสามารถหาซื้อได้บ้าง ขณะที่เรือพลาสติกและเรือที่ผลิตจากไฟเบอร์ ราคาเรือเปล่า 2 ที่นั่ง 2,800-3,000 บาท/ลำ ขนาด 4 ที่นั่ง 4,000 บาท/ลำ ขนาด 10 ที่นั่ง 10,000 บาท/ลำ เครื่องยนต์ 9 แรงม้า ราคาไม่ควรเกิน 21,000 บาท/เครื่องยนต์ ส่วนเสื้อชูชีพ รองเท้าบู๊ต ราคายังไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร, เครื่องกระป๋อง, ผู้ผลิตยืนยันที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจึงไม่ขาดแคลนแน่นอน และราคาไม่ควรปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติ พร้อมกันนี้ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กระทรวงฯ ตั้งศูนย์ผู้ประสบภัย เพื่อระดมความช่วยเหลือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทย โดยจะระดมปัญหาของผู้ส่งออกและผู้ประกอบการภายในประเทศ เพื่อจัดหามาตรการเยียวยา
อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ได้ตั้งศูนย์รับบริจาคเงินและสิ่งของ ชื่อบัญชีกระทรวงพาณิชย์ช่วยผู้ประสบภัย สามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 385-0-08473-6 และสามารถบริจาคสิ่งของจำเป็นได้ที่กองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์