รมว.พลังงาน เผยรัฐบาลเตรียมพิจารณาโครงการจัดทำแผนแม่บทพัฒนาแหล่งน้ำชลประทาน 25 ลุ่มน้ำ มูลค่า 4 แสนล้านบาท หลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาระบบน้ำอย่างถาวร
"กระทรวงพลังงานเตรียมทบทวนแผนพัฒนาแหล่งน้ำชลประทาน 25 ลุ่มน้ำ มูลค่า 4 แสนล้านบาท แบ่งเป็นโครงการผันน้ำจากภาคกลางไปภาคอีสานมูลค่า 1 แสนล้านบาท และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกรใช้ในฤดูแล้ง และยางพารา มูลค่า 3 แสนล้านบาท" นายพิชัย กล่าว
โดยโครงการดังกล่าวเป็นแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
รมว.พลังงาน กล่าวว่า แผนดังกล่าวจะสามารถแก้ไขปัญหาระบบน้ำได้อย่างเป็นระบบ ทั้งในส่วนของน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยกระทรวงพลังงานคาดว่าจะเริ่มพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้หลังน้ำลด เบื้องต้นจะพิจารณาพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ อาทิ ภาคเหนือ อีสาน และกลางก่อน
สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้น บมจ.ปตท.(PTT) ได้จัดโครงการ "ปตท.เติมน้ำใจ ให้น้ำมัน แบ่งปันผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ประกอบด้วย น้ำมันเบนซิน ดีเซล และหล่อลื่น รวมปริมาณ 4.8 แสนลิตร เพื่อจัดจ่ายให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ และผู้ประสบอุทกภัยสำหรับใช้เติมเครื่องยนต์รถและเรือ
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTT กล่าวว่า จากการสำรวจและประเมินความต้องการผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงในพื้นที่เป้าหมาย พบว่าผู้ประสบภัยขาดแคลนน้ำมันเบนซิน ดีเซล และหล่อลื่น ที่ใช้เติมเครื่องยนต์รถและเรือ จึงได้สำรองน้ำมันเบนซินและดีเซลปริมาณ 4.5 แสนลิตร และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับใช้กับเครื่องยนต์เรือ 3 หมื่นลิตร รวมมูลค่าทั้งสิ้น 25 ล้านบาท โดยวานนี้ ปตท.ได้ปล่อยขบวนรถขนส่งน้ำมันไปยังสถานีบริการในจังหวัดอยุธยา สิงห์บุรี และสระบุรี ซึ่งอยู่ใกล้จุดประสบภัยน้ำท่วมเดือดร้อนอย่างหนัก เพื่อทำการบรรจุน้ำมันลงถังขนาดบรรจุ 15 ลิตร จำนวน 3 หมื่นใบ ก่อนที่จะเตรียมแจกจ่ายให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ
พร้อมกันนี้ ปตท.ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอีกในหลายจุดเสี่ยงและจุดที่ประสบปัญหาหนัก ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกการช่วยเหลือให้เข้าถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ต่อไป
ขณะที่นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้สถานีบริการน้ำมันของ ปตท.ปิดบริการแล้ว 18 แห่ง, บางจาก 26 แห่ง ,เชลล์ 5 แห่ง และเอสโซ่ 7 แห่ง ขณะที่ปั๊มแอลพีจีปิดบริการแล้ว 8 แห่ง และโรงบรรจุก๊าซแอลพีจีปิดแล้ว 8 แห่ง
สำหรับการเตรียมความพร้อมในการรับมือน้ำท่วมในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการในการระวังด้านทรัพย์สิน ทั้งในส่วนของคลังและปั๊มน้ำมัน โดยภายหลังจากน้ำลดจะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันอีกครั้ง ปัจจุบัน ปตท.มีปั๊มน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 160 แห่ง