นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ(Ad hoc Committee) เพื่อเป็นกลไกติดตามความเคลื่อนไหวของปัญหาและพิจารณาหามาตรการแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาจากเหตุการณ์สำคัญทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งจัดเตรียมข้อมูลสำหรับการเข้าพบนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะกรรมการ่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ครั้งต่อไป
"ที่ประชุมฯ เห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทยต้องประสบกับเหตุการณ์ที่สำคัญ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการโดยส่วนรวม และอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 2554 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
โดยคณะกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดูแลมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังน้ำท่วม โดยมีนายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานฯ เป็นประธาน 2.คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดูแลปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มประเทศ EU โดยมีนายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานฯ เป็นประธาน 3.คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดูแลโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งดูแลทั้งในด้านนโยบายและความเสี่ยงต่อปัญหาการทุจริต โดยมีนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกิตติมศักดิ์ เป็นประธาน และ 4.คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดูแลปัญหาค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท โดยมีนายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานฯ เป็นประธาน
ด้านนายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานฯ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดูแลมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังน้ำท่วมขึ้น เพื่อพิจารณาแนวทาง มาตรการ และกรอบการดำเนินงาน ซึ่งที่ประชุมฯ มีข้อสรุปกรอบแนวทางการดำเนินงานใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยมีนางศิรินา ปวโรฬารวิทยา กรรมการปฎิคม เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบหลัก โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่เกิดอุทกภัยขึ้นในภาคใต้จนถึงปัจจุบัน หอการค้าไทยได้รวบรวมเงินที่ได้รับการบริจาคจากสมาชิกและเครือข่าย โดยได้ให้การสนับสนุนเงินช่วยเหลือผ่านหอการค้าจังหวัดที่เกิดน้ำท่วมเป็นการเร่งด่วน รวมทั้งสิ้น 40 จังหวัด จังหวัดละ 50,000 บาท รวมทั้ง ได้จุดประกายให้หอการค้าจังหวัดเหล่านี้ได้ระดมความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสมาชิกและประชาชนในจังหวัด ซึ่งรวมแล้วเป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท และขณะนี้ก็ยังมีการระดมความช่วยเหลือเพิ่มเติมอยู่
2.การเยียวยาให้กับผู้ประสบอุทกภัย และ 3.การฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังน้ำท่วม โดยมีตนเองเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบหลัก และ 4.การวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนายฉัตรชัย บุญรัตน์ และนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานฯ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ
นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานฯ กล่าวว่า หอการค้าไทยจะนำคณะทำงานที่รับผิดชอบในเรื่องการวางแผนดังกล่าวเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ตามคำแนะนำของประธานฯ คนใหม่ในเร็วๆ นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า กรรมการที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบทั้ง 4 เรื่องนี้จะทำงานประสานข้อมูลต่างๆ กับคณะทำงานของรัฐบาลที่มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดูแลในแต่ละเรื่อง นอกจากนั้นหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังได้จัดตั้ง War Room ขึ้นในหน่วยงาน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของภาคเอกชนในการรวบรวมข้อมูล ติดตามสถานการณ์ และประสานความร่วมมือจากเครือข่าย เช่น หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ สมาคมการค้า 115 สมาคม ในการให้ความช่วยเหลือกับสมาชิก ผู้ประกอบการ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีนายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ