กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้ญี่ปุ่นพยายามให้มากกว่านี้ในการลดหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาล ด้วยการจำกัดการใช้จ่ายและปฏิรูปการเก็บภาษีอย่างครอบคลุม
ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ไอเอ็มเอฟขานรับแผนบริหารการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งเป้าลดตัวเลขขาดดุลพื้นฐานต่อจีดีพีให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปีงบประมาณ 2558 และต้องมียอดเกินดุลพื้นฐานให้ได้ภายในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการปรับภาวะการคลังให้เข้าสู่สมดุล อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟระบุว่าญี่ปุ่นต้องพยายามให้มากกว่านี้เพื่อลดอัตราส่วนหนี้สุทธิต่อจีดีพีให้ได้ต่อเนื่อง
รายงานระบุว่า การปรับสมดุลการคลังอาจส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่สถานการณ์จะดีขึ้นในระยะยาว เพราะได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ต่ำลง การเก็บภาษีการบริโภคที่ดีกว่าเดิม และความเชื่อมั่นในการเงินสาธารณะที่มีมากขึ้น
ไอเอ็มเอฟเสนอให้มีการขึ้นภาษีการบริโภคอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากระดับ 5% ในปัจจุบันสู่ระดับ 15%
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 2.3% ในปี 2555 หลังจากที่หดตัว 0.5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับที่ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวเกียวโดรายงาน