นายเควิน รัดด์ รัฐมนตรีว่าการประทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลีย กล่าวในการประชุม Tourism Directions Conference ที่แคนเบอร์ราว่า ปัจจุบันนับเป็นศตวรรษของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และจีนถือเป็นกลไกที่สำคัญในการเติบโตของภูมิภาค
นายรัดด์ระบุว่า ปีที่ผ่านมานับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 พันปี ที่ชาวจีนอาศัยอยู่ในตัวเมืองมากกว่าในชนบท
โดยนายรัดด์ตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนประชากรในเขตเมืองของจีนได้เพิ่มขึ้น 446 ล้านคนภายในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรของทั้งสหรัฐและยุโรปรวมกัน และช่องว่างดังกล่าวได้ขยายออกไปเรื่อยๆ
การท่องเที่ยวออสเตรเลียจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงตลาดในประเทศที่มีศักยภาพสูงที่สุดแห่งนี้
"สาส์นที่ผมอยากจะสื่อในวันนี้ก็คือ นั่นเป็นโอกาสให้เรามองจีนในมุมที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง และนั่นเป็นชุมชนเกิดใหม่ของจีนในกว่า 101 ศูนย์กลาง โดยศูนย์กลางแต่ละแห่งยังเป็นตลาดที่มีพลวัตอีกด้วย" นายรัดด์กล่าวต่อที่ประชุม
"อย่าคิดว่าประชาชน 5 ล้านคนในเมืองในภาคกลางของรัฐหูหนานจะรู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่ออสเตรเลียนำเสนอทั้งหมด" เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่า การเติบโตของเมืองอันดับสองของจีนเป็นปรากฏการณ์ที่ออสเตรเลียจะต้องคว้าโอกาสให้ได้
ทั้งนี้ จีนได้กลายเป็นประเทศที่ใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูงที่สุดในออสเตรเลีย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี โดยข้อมูลสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลียบ่งชี้ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เดินทางมาท่องเที่ยวในออสเตรเลียกว่า 39,000 คนในเดือนพฤษภาคม รั้งอันดับที่สามรองจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากอังกฤษและญี่ปุ่น สำนักข่าวซินหัวรายงาน