สบน.ตั้งกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ วงเงิน2.4แสนลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 14, 2011 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.ได้จัดตั้งกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ กองแรก ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะปี 51 วงเงินกองทุนรวม 2.4 แสนล้านบาท เนื่องจากในปีงบประมาณ 55-56 มีพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินครบกำหนดมากกว่า 50,000 ล้านบาทภายในวันเดียวกัน จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ LB11NA, SB129A , LB133A ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงต้องมีแผนดำเนินการกู้เงินล่วงหน้า (pre-funding) เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าว

ทั้งนี้ การบริหารจัดการการลงทุนของกองทุน ต้องคำนึงถึงความมั่นคง ผลตอบแทน และความเสี่ยงที่เหมาะสม รวมถึงความปลอดภัยของเงินต้นเป็นสำคัญ ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเป็นการลงทุนภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ สัดส่วนการลงทุนไม่น้อยกว่า 60% จะลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสุง เช่น ตราสารหนี้ที่ออกหรือค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง ตราสารหนี้ที่ออกเป็นตราสากุลหลัก และออกหรือค้ำประกันโดยรัฐบาลต่างประเทศ สถาบันการเงินระหว่างประเทศ และต้องได้รับจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใดรายหนึ่ง และสัดส่วน ไม่เกิน 40% ลงทุนในตราสารหนี้อื่นที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุด จาก Fitch Rating (Thailand) หรือ ทริสเรทติ้ง โดยการลงทุนต่างประเทศ จะต้องมีการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแบบเต็มจำนวน

และในฐานะผู้จัดการกองทุนบริหารเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ (กปพ.) จึงได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างผู้บริหารสินทรัพย์จากภายนอก 3 ราย ประกอบด้วย บลจ.กสิกรไทย บลจ.กรุงไทย และ บลจ.ไทยพาณิชย์ เพื่อกระจายการลงทุน ช่วยลดความเสี่ยง ส่งเสริมการแข่งขันเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการบริหาร ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกองทุน เบื้องต้นได้วางเป้าหมายมีผลตอบแทนจากกองทุนดังกล่าวอยู่ที่ 3.5%

"การตั้งกองทุนนี้เพื่อลดความเสี่ยงการชำระหนี้เมื่อถึงกำหนด หากไม่บริหารก็เป็นปัญหาต่อต้นทุนและการหาเงินชำระหนี้ ดังนั้นก็ต้องมีการทยอยกู้ล่วงหน้า...การจัดสรรวงเงินบริหารจัดการลงทุนให้ บลจ.3แห่งจะจัดสรรเท่าๆกัน หลังจากนั้นจะมีการประเมินผลการดำเนินงาน ว่าแต่ละแห่งมีการดำเนิงานตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ หากใครบริหารได้ตามหลักเกณฑ์ ได้รับผลตอบแทนดี ก็จะมีการจัดสรรวงเงินให้เพิ่ม" นายจักรกฤศฎิ์ กล่าว

สำหรับพันธบัตรกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯฯ ทีมีวงเงินครบกำหนดชำระหนี้ แบ่งเป็น รุ่น LB11NA มีวงเงินครบกำหนด 89,099 ล้านบาท ได้ประมาณการวงเงินที่มอบหมายให้กองทุนบริหาร จำนวน 39,000 ล้านบาท มีระยะเวลาบริหาร ต.ค.-พ.ย.54 (1 เดือน ) รุ่น SB129A มีวงเงินครบกำหนด 206,023 ล้านบาท ประมาณการที่ให้กองทุนบริหาร จำนวน 1.54 แสนล้านบาท มีระยะเวลาบริหาร พ.ย.54- ก.ย.55 (10เดือน) และ รุ่น LB133A มีวงเงินครบกำหนด 99,000 ล้านบาท ประมาณการให้กองทุนบริหาร 50,000 ล้านบาท มีระยะเวลาบริหาร ธ.ค.55-มี.ค.56 (4 เดือน)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ