สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) หลังจากนายวูล์ฟกัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนี กล่าวว่า ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะยังไม่มีมาตรการแก้ไขวิกฤตหนี้ยูโรโซนขั้นเด็ดขาด ในการประชุมสุดยอดผู้นำอียูซึ่งจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าวิกฤตหนี้ยูโรซนอาจจะยืดเยื้อออกไป
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.99% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3738 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3875 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5753 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5818 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.53% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.790 เยน จากระดับ 77.200 เยน และพุ่งขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8987 ฟรังค์ จากระดับ 0.8915 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 1.52% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0185 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0342 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.77% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7929 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8050 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนอาจจะยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมนีได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในด้านลบ โดยนายชูเบิล รมว.คลังเยอรมนีเปิดเผยว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำอียูในวันที่ 23 ต.ค.นี้ คาดว่าผู้นำอียูจะใช้แผน 5 ขั้นตอนเพื่อแก้ไขภาวะไร้เสถียรภาพในยูโรโซน และเพื่อขจัดความไม่แน่นอนในตลาด แต่ผู้นำอียู "จะยังไม่มีมาตรการแก้ไขวิกฤตหนี้ยูโรโซนขั้นเด็ดขาด" ในการประชุมครั้งนี้
ขณะที่นายสเตเฟน เซเบิร์ต โฆษกรัฐบาลเยอรมนีได้ออกมาเตือนว่า "ความคาดหวังที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะได้รับการแก้ไขและจัดการได้ภายในวันจันทร์หน้านั้น อาจจะยังไม่เกิดขึ้น"
นักวิเคราะห์จากจีเอฟทีกล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมนีสะท้อนให้เห็นว่า ยูโรโซนซึ่งประกอบไปด้วย 17 ชาติสมาชิกนั้น กำลังเผชิญปัญหาท้าทายที่หนักหน่วง และอาจจะต้องใช้เวลานานในการแก้ไข
ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อในฐานะสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงผันผวน โดยเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กที่ระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในรัฐนิวยอร์ก (Empire State Index) อยู่ที่ระดับ -8.5 จุดในเดือนต.ค. กระเตื้องขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก.ย.ที่ระดับ -8.8 จุด
นอกจากนี้ เฟดเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของสหรัฐขยายตัว 0.2% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของสมาชิกสภาบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ต.ค.นี้ โดยวาระการประชุมมุ่งเน้นไปที่การหาแนวทางแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน และในการประชุมครั้งนี้จะไม่มีการประกาศนโยบายอัตราดอกเบี้ย