นางกรศิริ พิณรัตน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่าจากปัญหาอุทกภัยในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรง และขยายพื้นที่มากขึ้นได้นำความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนตลอดจนผู้ประกอบการในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี เช่น นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค(บ้านหว้า) และล่าสุดนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ฯลฯ ต่างก็ได้รับความสูญเสียเป็นมูลค่ามหาศาล หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งกรมศุลกากรมิได้นิ่งนอนใจ ต่างก็หามาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยดังกล่าว ที่ยังสามารถดำเนินการนำเข้า-ส่งออกสินค้าต่อไปในขณะนี้ กรมศุลกากรจึงได้จัดตั้ง “ศูนย์บริการศุลกากร” สำหรับบริการแก่ผู้ประกอบการให้สามารถปฏิบัติพิธีการศุลกากรได้ชั่วคราว ณ อาคาร terminal 1 ชั้น 1 ประตู 5 ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ศุลกากรผลัดเปลี่ยนมาให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นกรมได้ให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค(บ้านหว้า) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ให้สามารถขนย้ายของออกจากพื้นที่ได้โดยยังไม่ต้องปฏิบัติพิธีการศุลกากร เนื่องจากผู้ประกอบการซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จำเป็นต้องขนย้ายวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องจักรอุปกรณ์ ออกจากพื้นที่โดยด่วน อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว ขอให้ผู้ประกอบการดำเนินการแจ้งกรมศุลกากรในการขนย้ายของกลับเข้าพื้นที่ โดยกรมศุลกากรและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะร่วมกันตรวจสอบการขนย้ายของกลับเข้าไปยังสถานประกอบการ และให้ผู้ประกอบการปฏิบัติพิธีการในภายหลัง
อนึ่ง ผู้ประกอบการรายใดที่ประสงค์จะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-5351569