สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ของโลก หลังจากจีนเปิดเผยว่าอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ชะลอตัวลงในไตรมาส 3 นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป พร้อมกับจับตาดูการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 23.8 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,652.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 31.831 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.8 เซนต์ ปิดที่ 3.36 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 11.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,540.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 619.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ขยายตัวที่ระดับ 9.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี น้อยกว่าไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 9.5% และน้อยกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ดีถึง 9.7%
นักวิเคราะห์ในตลาดทองคำมองว่า สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนลดการถือครองทองคำอันเนื่องมาจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อลดน้อยลง หลังจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้น การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนก็ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลด้วยเช่นกัน เนื่องจากจีนเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ของโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศสและเยอรมนี หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจให้แนวโน้ม"เชิงลบ"แก่อันดับความน่าเชื่อถือที่ Aaa ของฝรั่งเศสภายในเวลา 3 เดือนข้างหน้า และ ZEW เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีร่วงหนักเกินคาดในเดือนต.ค. สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปี
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGbest ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "เทรดเดอร์และนักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นว่าสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะได้หรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูว่าที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ จะหาทางแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปได้หรือไม่"