นายหยาง ติง รองผู้อำนวยการ ศูนย์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมเคมีและการพัฒนาด้านเทคนิคแห่งชาติจีน (CNCETDC) กล่าวในการประชุม China Petroleum Summit 2011 ในวันนี้ว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบสำหรับตลอดทั้งปี 2554 ของจีนมีแนวโน้มจะแตะที่ 250 ล้านตัน อันเป็นผลเนื่องมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ขยายตัวขึ้น
นายหยางระบุว่า การพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันที่แข็งแกร่งภายในประเทศและกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 65% ภายในปี 2563 เมื่อเทียบกับ 54.81% ในปี 2553
ในทำนองเดียวกับยอดนำเข้าน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ยอดนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันของจีนก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันในปี 2554
นอกจากนี้ นายหยางยังคาดว่า ยอดนำเข้าก๊าซธรรมชาติของจีนมีแนวโน้มจะแตะที่ 20.64 ล้านตัน หรือ 2.85 หมื่นลานลูกบาศก์เมตรในปี 2553 เนื่องมาจากความคืบหน้าของโครงการท่อส่งก๊าซจากภาคตะวันตกไปยังภาคตะวันออกของประเทศ รวมทั้งเส้นทางนำเข้าอื่นๆ จากเอเชียกลาง รัสเซีย และ พม่า
ในขณะเดียวกัน ยอดนำเข้าก๊าซแอลพีจีของจีนคาดว่าจะแตะที่ 3.05 ล้านตันในปี 2554 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่ายอด 3.19 ล้านตันในปี 2553 เนื่องมาจากอุปทานก๊าซแอลพีจีภายในประเทศเพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นของราคาก๊าซแอลพีจีนำเข้า
นอกไปจากยอดนำเข้าก๊าซแอลพีจีที่คาดว่า ลดลงแล้ว ยอดนำเข้าแนปทาของจีน ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทธิลีน คาดว่า จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ยอดส่งออกคาดว่าจะลดลง เนื่องจากอุปสงค์เอทธิลีนภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยนายหยางคาดว่า ยอดนำเข้าแนปทาของจีนจะอยู่ที่ 2.33 ล้านตันในปี 2554
นอกจากนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของจีนจะยังคงมีเสถียรภาพเพราะมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากโรงกลั่นน้ำมันเอกชนภายในประเทศ และช่องทางการจ่ายน้ำมันจะช่วยบรรเทาอุปสงค์ที่ลดลงในภาคใต้ของจีน ซึ่งเป็นผลมาจากการนำก๊าซธรรมชาติจำนวนมากมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยนายหยางคาดว่า ยอดนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของจีนจะอยู่ที่ 27.89 ล้านตันในปี 2554 สำนักข่าวซินหัวรายงาน