World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 25, 2011 06:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการของภาคเอกชนในสหรัฐ รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทแคททาร์พิลลาร์ อิงค์ และความคาดหวังที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะและการเพิ่มทุนให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 104.83 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 11,913.62 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.94 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 1,254.19 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 61.98 จุด หรือ 2.35% ปิดที่ 2,699.44 จุด

--สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวในเดือนต.ค. ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 3.87 ดอลลาร์ หรือ 4.43% ปิดที่ 91.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง อันเนื่องมาจากความรู้สึกผิดหวังต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) รอบแรกซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.2 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,652.3 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3925 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3894 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5986 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5951 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.050 เยน จากระดับ 76.260 เยน และอ่อนตัวลง 0.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8811 ฟรังค์ จากระดับ 0.8827 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.99% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0471 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0368 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.60% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8023 ดอลลาร์สหรัฐ

--ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของจีนและยอดการส่งออกของญี่ปุ่นขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการใช้มาตรการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน

ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 59.41 จุด หรือ 1.1% ปิดที่ 5,548.06 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ