นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต องค์การคลังสินค้า (อคส.) และสมาคมผู้ค้าปลีกไทยว่า ที่ประชุมฯ มีมติให้นำเข้าสินค้า 3 กลุ่มเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าขาดแคลนในพื้นที่ต่างๆ ในช่วงน้ำท่วม ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำดื่ม ปลากระป๋อง ไข่ นมข้นหวาน นมถั่วเหลือง นมยูเอชที บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผักสด, กลุ่มของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าอนามัย กระดาษทิชชู สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และกลุ่มของใช้ทั่วไป เช่น เครื่องกรองน้ำ ตู้กดน้ำ เป็นต้น
"สินค้าที่นำเข้า โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่ม จะไม่มีปัญหาด้านคุณภาพ เพราะแม้จะลดขั้นตอนการตรวจสอบของ อย.แต่ยังต้องมีการใบยืนยันผลการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานอยู่ดี นอกจากนี้สินค้าที่จะนำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผู้ผลิตไทยไปลงทุนในต่างประเทศจึงไม่มีปัญหาคุณภาพแน่นอน โดยแหล่งนำเข้าส่วนใหญ่จะอยู่ในอาเซียนเป็นหลัก เพราะไม่เสียภาษีนำเข้า ส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าไม่ปรับขึ้นแน่นอน" นายยรรยง กล่าว
ส่วนการแก้ไขปัญหาศูนย์กระจายสินค้าที่ถูกน้ำท่วม ทำให้ไม่สามารถขนส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้นั้น นอกจากศูนย์กระจายสินค้าพิเศษที่ใช้พื้นที่คลังสินค้าของสนามบินดอนเมือง แก้ไขปัญหาให้กับห้างค้าปลีกต่างๆ ไปแล้วนั้น ล่าสุดจะเสนอให้มีการเพิ่มจุดศูนย์กระจายสินค้าอื่นๆ อีก โดยจะเจรจากับกระทรวงคมนาคมขอใช้พื้นที่เขตปลอดภาษี(ฟรีโซน) ของสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งพื้นที่ของกองทัพอากาศ เช่น สนามบินโคราช สนามบินอู่ตะเภา รวมถึงคลังสินค้าของ อคส. และศาลากลางจังหวัดต่างๆ เพื่อบรรเทาปัญหาในการกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้เร็วที่สุด คาดว่ามาตรการเหล่านี้จะแก้ปัญหาสินค้าขาดแคลนได้ระยะหนึ่ง
ด้านนายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีสินค้าอุปโภคบริโภคที่หายไปจากระบบตลาดปกติประมาณ 40% เพราะติดค้างอยู่ในศูนย์กระจายสินค้าที่ถูกน้ำท่วมไม่สามารถขนย้ายออกมาได้ ซึ่งมีประมาณ 1,200 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ใช้ได้นาน 1-2 เดือนในเวลาปกติ และบางส่วนหายไปเพราะโรงงานหลายแห่งที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จมน้ำไปหมดแล้ว ส่วนที่ยังไม่จมน้ำก็ถอดปลั๊กเครื่องจักรออกไม่ผลิตแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การที่รัฐบาลอนุมัติให้นำเข้าสินค้าที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนจะช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนได้ระดับหนึ่ง โดยยืนยันว่าราคาขายสินค้านำเข้าจะไม่สูงเกินกำลังซื้อของประชาชนแน่นอน