นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า จากการประชุมสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อเช้า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานรับผิดชอบเร่งฟื้นฟูพื้นที่ต่าง ๆ และโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมใน จ.พิษณุโลก โดยจะเริ่มจาก อ.บางระกำ ซึ่งจะเข้าไปดำเนินการภายในปลายเดือนต.ค.- ต้นพ.ย. หลังระดับน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กระทรวงสั่งเครื่องปั๊มน้ำจากประเทศจีน จำนวน 140 เครื่อง กำลังสูบน้ำ 500 ล้าน ลบ.ม./ชั่วโมง โดยจะนำเข้ามาภายใน 25-30 วัน เพื่อเร่งเข้าไปติดตั้งตามนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วม
"หลังน้ำลดเราก็มีแผนฟื้นฟูระบบน้ำทั้งหมด และเร่งฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ขึ้นมาให้ได้ ซึ่งจะช่วยทำให้รายได้ของประเทศดีขึ้น อย่าที่โรจนะมีความต้องการใช้ไฟฟ้า เราก็ได้มีการประสาน กฟผ.ให้เร่งจ่ายไฟ และงดเก็บค่าปรับ" รมว.พลังงาน กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนคลังเก็บน้ำมันต่างๆ ขณะนี้ทางหน่วยงานหรือเจ้าของบริษัท ได้เข้าไปดูแลและเสริมคันกั้นน้ำเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ คลังเก็บน้ำมันที่พระโขนงของ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ประสานไปยังกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้ส่งทหารมาช่วยทำคันกั้นน้ำ โดยหากคลังของบางจากถูกน้ำท่วม ก็ยังมีคลังเก็บน้ำมันอื่นอีก 5-6 แห่งที่สามารถให้บริการได้ ขณะเดียวกัน เป็นกังวลท่อส่งน้ำม้นของบริษัท แทปไลน์ ซึ่งขนส่งน้ำมันทางท่อ และบางส่วนอยู่พื้นที่น้ำท่วม แต่ยังไม่รับรายงานความเสียหายแต่อย่างใด
ด้านนายสมนึก บำรุงสาลี รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า มีสถานีบริการน้ำมันปิดให้บริการ 262 แห่ง และสถานีบริการก๊าซ NGV จำนวน 79 แห่ง และ ก๊าซ LPG จำนวน 107 แห่ง รวมทั้งโรงบรรจุก๊าซ 20 แห่ง
ขณะนี้คลังน้ำมันที่ลำลูกกา มีกำลังการส่งน้ำมันลดลงเหลือ 25% จากปกติ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบมีน้ำท่วม ทำให้รถเข้ามาได้ลำบาก โดยขณะนี้ได้มีการสร้างแนวกั้นน้ำไว้สูง 1.8 เมตร และระดับน้ำยังอยู่ต่ำกว่าแนวกั้นประมาณ 20 ซม. ทำให้มั่นใจว่าน้ำจะไม่เข้าท่วมคลังน้ำมัน ส่วนการส่งน้ำมันไปสุวรรณภูมิยังไม่น่ากังวล