ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ขานรับความคืบหน้าของการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) โดยมีรายงานว่าผู้นำอียูมีความเห็นพ้องต้องกันว่าจะเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดว่าผู้นำอียูจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะได้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 162.42 จุด หรือ 1.39% แตะที่ 11,869.04 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 12.95 จุด หรือ 1.05% แตะที่ 1,242.00 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 12.25 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 2,650.67 จุด
--สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจทำให้ความต้องการพลังงานของสหรัฐหดตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.97 ดอลลาร์ หรือ 3.19% ปิดที่ 90.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากความไม่มั่นใจในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้นักลงทุนยังคงแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 23.1 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,723.5 ดอลลาร์/ออนซ์
-- สกุลเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) แต่ยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่าผู้นำอียูมีความเห็นพ้องต้องกันว่าจะเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)
ค่าเงินยูโรขยับลงเล็กน้อย 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3902 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคาร 1.3904 ดอลลาร์สหรัฐ
--ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) จากมีรายงานว่าผู้นำอียูมีความเห็นพ้องต้องกันว่าจะเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 27.70 จุด แตะที่ 5553.24 จุด