นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหารือรัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจ โดยกำชับให้ทุกกระทรวงดูแลภาคประชาชน ภาคธุรกิจปขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมจ้างแรงงานที่ตกงานทั้งในส่วนของการเข้าไปดูแลฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรม สถานที่ราชการ และศูนย์พักพิง โดยอัตราค่าจ้างคาดว่าไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อวัน
ทั้งนี้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะต้องดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงเพื่อให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และเจ้าหน้าที่จะได้ไปทำงานในส่วนอื่น ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงแรงงานก็จะเข้าไปดูแลทางด้านการฝึกอาชีพ และอบรม ระหว่างน้ำลดเตรียมไว้
"รัฐบาลไม่ได้ไปแย่งแรงงานของภาคเอกชน ซึ่งทางภาคเอกชนร้อยละ 90 ยังยืนยันที่จะจ้างงานต่อ และพร้อมจ่ายเงินค่าจ้างแรงงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ทั้งนี้รัฐบาลเห็นด้วยกับข้อเสนอของภาคเอกชนที่ให้ยกเว้นการจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคม แต่ทั้งนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของกองทุนประกันสังคมที่จะให้มีการพิจารณา"นายกิตติรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมเป็นเจ้าภาพในการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม ทั้งในเรื่องของการเข้าไปฟื้นฟูเครื่องจักร และอุปกรณ์ของโรงงานต่างๆ ให้ความช่วยเหลือกับเอกชนทุกราย ตามข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรม
ส่วนความกังวลของผู้ประกอบการที่รัฐบาลจะมีการนำเข้าสินค้าโดยตรงจากต่างประเทศ อาทิ น้ำดื่ม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า ให้ความใส่ใจต่อผู้ประกอบการในประเทศ แต่หากติดขัดในเรื่องของระบบการขนส่ง รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องน้ำเข้า เพราะรัฐบาลให้ความสนใจดูแลผู้บริโภค เป็นเงื่อนไขที่สำคัญ ถ้าหากผู้ค้าส่งค้าปลีกสามารถจัดส่งสินค้าได้ก็ไม่จำเป็นนำเข้า
ขณะเดียวกัน นายกิตติรัตน์ กล่าวย้ำว่า หากตรวจพบว่ามีร้านค้าใดขายสินค้าที่รัฐบาลประกาศเป็นสินค้าควบคุมราคา สามารถแจ้งมารัฐบาลโดยตรง เพื่อที่จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป