นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า จากน้ำท่วมในหลายจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร เครดิตบูโรในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสถาบันการเงินไทย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยผ่านการทำงานร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน เพื่อคลายความกังวลของผู้ประสบภัยในเรื่องภาระหนี้สินและดูแลประวัติการชำระสินเชื่อมิให้เกิดผลเสียหาย หากเมื่อน้ำลดลงเข้าสู่ปกติจะได้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อนำมาซ่อมแซม หรือนำมาใช้หมุนเวียนทางธุรกิจได้
ทั้งนี้ มาตรการที่เครดิตบูโรทำไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 โดย ออกหนังสือแจ้งสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก 76 แห่งให้ทราบและขอความร่วมมือในการส่งข้อมูลมายังเครดิตบูโรว่า บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ ปกติไม่ค้างชำระ หรือบัญชีนั้นปรับโครงสร้างหนี้ หรือบัญชีนั้นพักชำระหนี้ เมื่อลูกหนี้ที่ประสบภัยได้เข้าโครงการผ่อนผัน-ผ่อนปรนของสถาบันการเงินนั้นๆ ที่ได้มีการประกาศออกไปตัวอย่างเช่น สถาบันการเงินแห่งหนึ่งมีการออกมาตรการผ่อนผันการชำระเงินงวดค่าบ้านสำหรับผู้ที่ประสบภัยในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน เมื่อลูกหนี้มาเข้าโครงการ ข้อมูลที่สถาบันการเงินนั้นส่งเข้ามาที่เครดิตบูโร ในบัญชีนั้นจะถูกบันทึกว่า บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ“ปกติไม่ค้างชำระ"
กรณีที่สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก 76 แห่งมีการติดต่อหนี้ภายหลัง เนื่องจากตอนประสบภัยยังหาตัวกันไม่พบเพราะต่างก็ถูกน้ำท่วม หากมีการส่งข้อมูลเข้ามาว่าผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม เมื่อมีการเข้าโครงการผ่อนผัน-ผ่อนปรนของสถาบันการเงินนั้นๆ และให้มีผลย้อนหลังไปยังเดือนที่เคยส่งข้อมูลว่าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินนั้นก็สามารถแจ้งแก้ไขให้บัญชีดังกล่าวกลับมาเป็นสถานะ บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ “ปกติไม่ค้างชำระ" หรือบัญชีนั้นปรับโครงสร้างหนี้ หรือบัญชีนั้นพักชำระหนี้แล้วแต่กรณี ทางเครดิตบูโรจะดำเนินการแก้ไข-ปรับปรุงให้เป็นไปตามที่มีการตกลงกัน (กรณีมีการกำหนดให้มีผลย้อนหลัง-ก็จะมีการแก้ไขย้อนหลังไปยังเดือนดังกล่าว)
เครดิตบูโรได้แจ้งเรื่องที่มีการระบุให้สมาชิกนำส่งข้อมูลให้สอดคล้องกับมาตรการที่มีการผ่อนผัน-ผ่อนปรนให้กับลูกค้าผู้ประสบภัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้แก่ สถาบันการเงินรัฐ-เอกชน สมาคมธนาคารไทย สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย บริษัทสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทบัตรเครดิต สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2554
และเพื่อให้มั่นใจว่าการส่งข้อมูลจะถูกต้อง เครดิตบูโรจะเผ้าติดตามข้อมูลที่สมาชิกนำส่งทุกสิ้นเดือนเป็นรายสมาชิกว่า ไม่มีความผิดปกติ-ไม่มีการส่งข้อมูลบัญชีที่มีการแสดงสถานะว่าผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า โดยการเทียบข้อมูลเดือนต่อเดือนเป็นรายสมาชิกหากพบความผิดปรกติจะแจ้งสมาชิกให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งก่อนนำข้อมูลเข้าฐาน
นอกจากนี้ขอแนะนำว่า ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเมื่อน้ำลดควรรีบติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแจ้งความเสียหาย ปรึกษาหารือเพื่อเข้าโครงการผ่อนผัน-ผ่อนปรน เพื่อให้ประวัติทางการเงินได้รับการคุ้มครองว่า “ไม่ผิดนัดชำระหนี้"