บรรดาผู้นำทั้งในและนอกยุโรปต่างขานรับข้อตกลงครั้งสำคัญในที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ที่บรัสเซลส์ เพื่อจัดการวิกฤตหนี้สาธารณะในกรีซ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันนเดรอูของกรีซเรียกข้อตกลงฉบับใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นหลังการประชุมมาราธอนของสุดยอดผู้นำอียูนี้ว่าเป็น “ยุคใหม่ บทใหม่" ของกรีซ ซึ่งมีหนี้สินท่วมท้น
“จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับเรา แต่ก็ยังคงต้องทำงานกันต่อไป" นายกฯกรีซกล่าว
สำหรับข้อตกลงดังกล่าวเป็นการหารือร่วมกันกับตัวแทนเจรจาจากธนาคาร โดยระบุว่า หนี้สินของกรีซ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3.50 แสนล้านยูโร (4.90 แสนล้านดอลลาร์)นั้น คาดว่าจะลดลงไปได้ 1 แสนล้านยูโร (1.40 แสนล้านดอลลาร์) และอัตราส่วนหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะลดลงจาก 160% เหลือ 120% ภายในปี 2563
หลังเสร็จสิ้นการประชุม ซึ่งกินเวลามาตั้งแต่ช่วงเย็นวันพุธล่วงเข้าสู่เช้าวันพฤหัสบดี นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคลของเยอรมนีกล่าวว่า “ฉันคิดว่าเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ และเราก็ได้ลงมือทำในเรื่องที่จำเป็นแล้ว"
ขณะที่ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีกล่าวว่า “เราได้นำองค์ประกอบจากมาตราการต่างๆมาปรับใช้เพื่อตอบโต้กับวิกฤตกำลังคืบคลานไปทั่วยูโรโซน"
ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษแสดงความเห็นพ้องกันว่า “การเพิ่มเงินทุนให้กับธนาคารนั้นคืบหน้าไปอย่างดี ไม่ใช่แค่การประนีประนอม แต่พวกเราเห็นพ้องต้องกันเลยทีเดียว"
นายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด ของออสเตรเลียขานรับข้อตกลงนี้เช่นกัน แต่เตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจผันผวนยิ่งขึ้นจนกว่าจะมีการนำแผนการไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม