นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายของธนาคารกลางว่า เงินเยนที่แข็งค่าเป็นประวัติการณ์และวิกฤตหนี้ยูโรโซนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายได้ลงมติให้เพิ่มวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ของธนาคารเป็น 55 ล้านล้านเยน จากระดับ 50 ล้านล้านเยนว่า "เราได้พิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงในอนาคตมากขึ้น และตัดสินใจผ่อนคลายนโยบาย"
ทั้งนี้ ผู้นำยูโรโซนและประเทศต่างๆในสหภาพยุโรปเห็นชอบมาตรการแก้ปัญหาด้านการคลังในกรีซ และเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวกลายเป็นวิกฤตภาคธนาคารในระดับภูมิภาคและลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ เช่น อิตาลี และ สเปน
ผู้ว่าบีโอเจกล่าวว่า ข้อตกลงของผู้นำยุโรปมีความสำคัญอย่างมาก แต่ก็ย้ำว่า ข้อตกลงนี้อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดที่นานาประเทศกำลังเผชิญอยู่ "เราเชื่อว่า การยกระดับการกำกับดูแลเศรษฐกิจ และทำให้เศรษฐกิจในยุโรปขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน เป็นเรื่องที่สำคัญ"
ในส่วนของเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นนั้น นายชิรากาว่ากล่าวว่า เงินเยนที่แข็งค่ามีอิทธิพลด้านลบต่อความเชื่อมั่นของบริษัทรายใหญ่ๆ รวมทั้งผลประกอบการและการส่งออกของบริษัทเหล่านี้