รองประธานหอการค้าไทย คาดหากน้ำท่วมทั่วทั้งกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเขตพื้นทีชั้นในจะส่งผลต่อผลผลิตมวลรวม(จีดีพี)ของกรุงเทพฯราว 2.5 แสนล้านบาท หรือสูญเสียรายได้เดือนละประมาณ 8.3 พันล้านบาท เพราะคาดว่าจะใช้เวลาฟื้นฟูภายใน 3 เดือน พร้อมเรียกร้องให้รัฐออกมาตรการเยียวยาภาคธุรกิจ ขณะที่กลุ่มธุรกิจย่านราชประสงค์เผยโรงแรมเริ่มรับผลกระทบ ต่างชาติยกเลิก เหลืออัตรายอดเข้าพักเหลือ 40% ทั้งที่อยู่ในช่วงไฮซีซั่น เพราะเชื่อว่ากรุงเทพจมน้ำแน่ เตรียมปิดห้างย่านนี้หากน้ำขึ้นสูง 50 ซม.
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาวะน้ำท่วมที่กำลังเคลื่อนเข้าสู่กรุงเทพขณะนี้ยอมรับว่ากระทบกับการค้าขายแน่นอน และหากท่วมทุกพื้นที่กว่าจะระบายน้ำออกไปได้ รวมถึงใช้เวลาฟื้นฟูคงจะใช้เวลานาน 3 เดือน ก็จะกระทบต่อจีดีพีของกรุงเทพ คิดเป็นประมาณ 2.5 แสนล้านบาท จากปัจจุบันจีดีพีของกรุงเทพอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาทต่อปี
อย่างไรก็ดี หากวันนี้มีระดับน้ำเข้ามาและท่วมทั่วกรุงเทพโดยเร็ว จากนั้นเร่งระบายน้ำออกได้ภายใน 45 วันก็จะช่วยลดความเสียหายได้บ้าง
"เรารบแพ้ทุกสนาม ตอนนี้เหมือนเรากำลังเข้าสู่ภาวะสงคราม ตอนนี้เราเตรียมพร้อมอยู่แลว แต่รออยู่ว่าน้ำจะมาหมดเมื่อไร" นายพรศิลป์ กล่าว
นายพรศิลป์ กล่าววา สิ่งที่น่ากังวลในสถานการณ์น้ำท่วม ได้แก่ เรื่องโรคระบาด และ ความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหา ซึ่งอยากให้รัฐบาลเปลี่ยนวิธีการแก้ไขแบบเก่าในการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ทั้งนี้เสนอให้รัฐลดภาษีการนำเข้าเครื่องจักรใหม่ ขยายสิทธิบีโอไอ ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือเป็นดอกเบี้ย 0% โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรัฐบาลควรจะเข้าไปค้ำประกันเพื่อให้ได้สินเชื่อหมุนเวียนทำธุรกิจต่อไป เพราะเชื่อว่าคงไม่มีสินทรัพย์อะไรไปค้ำประกันเพราะเสียหายไปกับน้ำท่วมแล้ว
ด้านนายชาย ศรีวิกรม์ ประธานสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวหลังเข้าร่วมประชุมสัมมนาที่ทางกรุงเทพมหานคร(กทม.)ชี้แจงสถานการณ์และแผนรองรับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมกรุงเทพว่า กทม.มีข้อจำกัดในการแก้ปัญหาน้ำท่วม และการทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) โดยเฉพาะกรุงเทพไม่สามารถประเมินได้ว่าน้ำจะมาเมื่อไร อย่างไร เพื่อให้เตรียมตัวได้ทันการ และสามารถแจ้งให้กับลูกค้าโดยเฉพาะชาวต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในกรุงเทพ
นายชาย เผยว่า ขณะนี้ยอดเข้าพักของโรงแรมในย่านราชประสงค์ลดลงเหลือ 40% จากปกติช่วงนี้จะมียอดเข้าพักระดับ 90% เพราะเป็นช่วงไฮซีซั้น และเชื่อว่ายอดเข้าพักในเดือนพ.ย.ก็จะลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย และยอดเข้าห้างของต่างชาติหายไปครึ่งหนึ่ง โดยมีต่างชาติเข้ามาเดินห้างในย่านราชประสงค์ 50% ของคนที่เข้าห้างมาทั้งหมด
นอกจากนี้ได้มีการหารือกับธุรกิจในย่านราชประสงค์ว่า ขณะนี้ยังเปิดให้บริการห้างและโรงแรม แต่หากระดับน้ำขึ้นมาถึง 50 ซม. ก็จะปิดให้บริการ เพราะคงไม่มีใครมีอารมณ์มาเดินซื้อของ ส่วนสำนักงานก็แทบจะไม่มีพนักงานเข้ามาทำงาน และหากน้ำท่วมนาน 1 เดือนเชื่อว่ายังไม่จำเป็นต้องปลดพนักงานออก แต่ถ้าเกิน 1 เดือนมองว่าน่าจะมีปัญหา ขณะเดียวกันอาคารในย่านราชประสงค์ก็ทำกระสอบทรายกั้นน้ำสูง 1.20-1.50 เมตร และเตรียมแผนให้พนักงานอยู่ประจำตึกในย่านนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิล์ด อัมรินทร์พลาซ่า โรงแรมไฮแอทเอราวัณ ตีกมณียา โรงแรมโฟร์ซีซั่น เป็นต้น
ทั้งนี้ จากข้อมูลของนักวิชาการประเมินว่ามีความเป็นไปได้กรุงเทพจะมีน้ำท่วมนาน 1 เดือน ระดับ 1 เมตร นายชาย กล่าวแสดงความกังวลว่า รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนหรือช้อมูลชัดเจนที่จะให้คนกรุงเทพตัดสินใจว่าจะอยู่ในกรุงเทพ หรืออพยพไปที่อื่น ทั้งเรื่องความปลอดภัย การเตรียมอาหาร สถานที่พักพิง รวมทั้งมาตรการเยียวยาหลังน้ำลด และมองว่า การจัดการปัญหาของรัฐบาลไม่เป็นกระบวนการ