สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 24.2 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,747.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,707.20-1,751.30 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น1.802 เซนต์ ปิดที่ 35.112 ดอลลาร์ และสัญญาทองแดงเพิ่มขึ้น 20.2 เซนต์ ปิดที่ 3.692 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 44.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,641.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 23.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 669.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ในตลาดว่า สัญญาทองคำพุ่งขึ้นหลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูมีมติให้ใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปยังประเทศอื่นๆที่มีความสำคัญในเชิงระบบของยูโรโซน เช่นอิตาลี โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการเพิ่มขนาดให้กับกองทุน EFSF เป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และปรับลดมูลค่าพันธบัตร หรือการทำ haircut ของรัฐบาลกรีซซึ่งถือครองโดยธนาคารเอกชนลงในสัดส่วน 50% ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกัยยูโร และเป็นปัจจัยหนุนสัญญาทองคำในอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลง 1.64% สู่ระดับ 74.97 จุดเมื่อวานนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐจะทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์มีมูลค่าน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ