ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.64 แกว่งแคบจากช่วงเช้า ตลาดจับตาคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐ-คู่ค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 28, 2025 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.64 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 33.65/66 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.53 - 33.77 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า จากราคาทองที่ร่วงลงระหว่างวัน ประกอบกับต่างชาติขายพันธบัตรไทยสุทธิประมาณ 11,000 ล้าน บาท ขณะที่สกุลเงินในภูมิภาควันนี้เคลื่อนไหวทั้งอ่อนค่าและแข็งค่าสลับกันไป

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามช่วงนี้ คือข่าวการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.50 - 33.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.37 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 143.60/61 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1354 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1354/1355 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,159.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.53 จุด (+0.05%) มูลค่าซื้อขาย 28,497.46 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,076.61 ล้านบาท
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค. 68 ว่า เศรษฐกิจ
ไทยยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวต่างชาติ และการบริโภคใน
หมวดสินค้าคงทน มีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องติดตามนโยบายเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีน ที่
จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป
  • ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 68 เหลือโต 1.6% ชะลอลง
จากเมื่อเดือนก.พ. 68 ที่ได้ประเมินว่าจะเติบโตได้ 2.9% เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าระหว่างประเทศและความไม่แน่นอน
ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการลงทุน ซึ่งจากความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจก็ยังคง
อยู่ในระดับสูงด้วย
  • กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อน
ไหวในกรอบ 33.20-33.90 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยในประเทศ มองสวนตลาดและคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจ
คงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.00% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย. 68 เพื่อจับตาและรอความชัดเจน โดยเก็บกระสุนดอกเบี้ยนโยบายไว้ใช้ใน
ช่วงครึ่งปีหลัง
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ห่วงเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง เสี่ยงเผชิญภาวะถดถอยทาง
เทคนิค จากผลกระทบสงครามการค้า หั่น GDP ปี 68 เหลือโต 1.5% จับตากนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เงินบาทระยะ
ยาวมีแนวโน้มแข็งค่า
  • ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า แม้ว่ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เห็นว่าลดลง เช่น จีน แต่เมื่อไปดูยอดราย
ได้เทียบกับปีที่แล้ว จะเห็นว่าสูงขึ้นเกือบ 10% และมีทิศทางที่กลุ่ม High Spending และพำนักระยะยาว จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศ
ไทยสูงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนกว่าที่ผ่านมา มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึงเกือบ 600,000 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือจนถึง
สิ้นปีนี้ พร้อมมั่นใจว่า จะสามารถทำยอดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้บรรลุเป้า 2.2 ล้านล้านบาท ด้วยการเดินเครื่องจักรการท่อง
เที่ยวอย่างเต็มสูบ
  • กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยในวันนี้ (28 เม.ย.) ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดีโดนัล
ด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้มีการหารือกันทางโทรศัพท์เมื่อเร็ว ๆ นี้
  • รองประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) กล่าวว่า รัฐบาลจีนเตรียมใช้มาตรการฉุกเฉิน
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็แสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับประมาณ 5% ในปี 68
ตามที่วางไว้
  • ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ระบุในรายงานเศรษฐกิจมหภาคที่เผยแพร่วันนี้ (28 เม.ย.) ว่า ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของสิงคโปร์ โดยจะไม่เพียงแต่ส่งผลโดยตรงต่อการส่งออกของสิงคโปร์ไปยังสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบ

ทวีคูณ (multiplier effect) ในเชิงลบต่อรายได้และอุปสงค์โดยรวมของเศรษฐกิจสิงคโปร์อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ