ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.37 พลิกแข็งค่า แนวโน้มแกว่ง sideway ในกรอบ 33.25-33.50

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 29, 2025 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมากจากปิดเย็นวานที่ระดับ 33.64 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ท่าม กลางความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ล่าสุด ทางการของทั้งสองฝ่ายต่างให้ข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน ขณะเดียว กัน รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน ทำให้ตลาดยังกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของ สถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้า ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดต่างกลับเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่ไม่ใช่เงินดอลลาร์ อาทิ เงินเยน และทองคำ

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ยังเห็นถึงภาวะความผันผวนสูงของตลาดค่าเงิน ซึ่งความผันผวนของเงินบาทนั้น นอกเหนือ จากผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์แล้ว ทิศทางราคาทองคำ ก็มีผลกับเงินบาทพอสมควร ซึ่งหากราคาทองคำยังเคลื่อนไหว ในกรอบ Sideways อยู่ในช่วงการพักฐาน ก็อาจทำให้เงินบาทแกว่งตัวในกรอบ Sideways ได้เช่นกัน

"แม้ว่าเงินบาทจะทยอยแข็งค่าขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่การแข็งค่าของเงินบาท ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นใน ตลาด อาจรอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน อีกทั้งบรรดานักลงทุนต่างชาติ อาจยังเดินหน้าทยอยขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม ได้" นายพูน ระบุ

ส่วนคืนนี้ ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค.

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 33.25-33.50 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.32750 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 142.17 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 143.37 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1407 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1354 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.655 บาท/ดอลลาร์
  • "นายกฯอิ๊งค์" ยันเจรจาสหรัฐฯ ถกปม "กำแพงภาษีทรัมป์" อยู่ระหว่างรอการคอนเฟิร์มวันนัดหมาย ด้าน "พิชัย" แย้ม
ข่าวดี ไทยไม่น่าติดโผ 10 ประเทศที่โดนขึ้นภาษี คาดเอกชนสหรัฐฯ ช่วยหนุนเจรจาเพียง 1-2 ครั้งมีลุ้นปิดดีล
  • "สนค." วิเคราะห์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน สินค้าเกษตรไทยมีโอกาสส่งออกเพิ่มขึ้น ทั้งข้าว อาหารสัตว์ ปลาแมกเคอ
เรลปรุงแต่ง หน่อไม้ปรุงแต่ง เหตุไทยครองส่วนแบ่งตลาดลำดับต้น มีลุ้นยึดส่วนแบ่งจากจีนเพิ่ม ส่วนเส้นหมี่ วุ้นเส้น หมึกแช่แข็ง ซอสถั่ว
เหลือง ปลาอื่นๆ ปรุงแต่ง พืชตระกูลถั่ว เป็นสินค้าที่จีนครองส่วนแบ่ง แต่ไทยมีโอกาสขายเพิ่ม ส่วนกระเทียม ผัก พริกแห้ง พริกไทยเทศ
แห้ง ชาเขียว หอมหัวใหญ่ ต้องระวังการแข่งขัน สศค.เผยเศรษฐกิจภูมิภาคเดือน มี.ค.มีปัจจัยหนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ความเชื่อ
มั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง
  • หน่วยงานตลาดทุนเตรียมความพร้อมไอพีโอ 37 กองทุน ThaiESGX 2 พ.ค. 68 เปิดสับเปลี่ยน LTF 13 พ.ค. หวัง
เงินใหม่และคงค้าง LTF กว่าแสนล้านช่วง 2 เดือนเข้าลงทุนตลาดหุ้นไทย ด้านผู้จัดการกองทุนเชื่อมีโอกาสสูงหุ้นไทย ทำผลตอบแทนระยะ
ยาวแตะ 10% หลังลงลึกเฉพาะอัตราปันผลสูง 4.5%
  • ทั่วโลกเกาะติดนโยบายทรัมป์ 100 วัน ปะทุสงครามการค้ารอบใหม่ป่วนทั้งโลก ลุยตอบโต้ขึ้นภาษีสินค้าจีน "ตลาดหุ้น"
ผันผวนหนัก จับตาเศรษฐกิจเสี่ยงถดถอย เป็นสัญญาณความเสื่อมถอยของประชาธิปไตยในสหรัฐ เรตติ้งต่ำสุดรอบ 70 ปี สำหรับ
ประธานาธิบดีที่ทำงาน 100 วัน เผยอีก 100 วันข้างหน้า ลุยเจรจาดีลการค้า เยือนตะวันออกกลาง พร้อมเจรจาสันติภาพ
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์
(28 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอคอยความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังจากทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณที่ขัดแย้ง
กัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะข้อมูลแรงงานและเงินเฟ้อ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (28 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนจับตา
ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period)
ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 6-7 พ.ค.
  • นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แม้ประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ กดดันอย่างหนักให้เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน กรกฎาคม ตุลาคม และธันวาคม

  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลแรงงานและเงินเฟ้อ โดยในวันนี้จะ

มีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค. ส่วนในวันพุธจะเปิดเผยตัวเลขจ้าง

งานภาคเอกชนจาก ADP เดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค

ส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และวันศุกร์นี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์

คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และ

คาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2% ในเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ