องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) คาดการณ์ว่า จีดีพีที่แท้จริงของกลุ่ม จี20 มีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ย 3.9% ในปี 2554, 3.8% ในปี 2555 และ 4.6% ในปี 2556 ในกรณีที่ยังไม่มีการดำเนินนโยบายที่ครอบคลุมเพื่อจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน รวมถึงนโยบายการคลังในสหรัฐไม่มีความคืบหน้า
ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างมาก หรืออาจถึงขั้นหดตัวในบางพื้นที่ ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ คาดว่าจะอ่อนแอ แต่จะค่อยๆดีดตัวตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป
นายอังเกล เกอร์เรีย เลขาธิการของ OECD กล่าวในระหว่างการเปิดเผยรายงาน ซึ่งมีขึ้นก่อนการประชุมสุดยอด จี20 ที่เมืองคานส์ ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจระยะสั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความไม่แน่นอนต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศพัฒนาแล้ว ดังนั้นผู้นำกลุ่ม G20 จึงจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างชัดเจนและลงมือดำเนินอย่างเด็ดขาดโดยเร็ว
จากการคาดการณ์ของ OECD นั้น การขยายตัวของจีดีพีในกลุ่มประเทศ จี20 จะยังคงอ่อนแอในช่วงสองปีข้างหน้า ขณะที่อัตราการขยายตัวในตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มว่าจะต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤต
ทั้งนี้ นายเกอร์เรียได้แสดงความชื่นชมการบรรลุข้อตกลงร่วมกันของผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับการแก้ไขวิกฤตหนี้และภาคธนาคาร แต่ขณะเดียวกันก็ชี้ว่า มาตรการเหล่านี้ต้องถูกนำไปปฏิบัติอย่างแข็งขันและในทันที
นอกจากนี้ ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจกลุ่ม จี20 ที่เผยแพร่ในวันนี้ OECD ยังได้คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานในประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วหลายประเทศ จะยังคงอยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 8.1% ในปีนี้, 8.2% ในปีหน้า และ 8.0% ในปีถัดไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน