สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน อันเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อวานนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดร่วงลง 22 ดอลลาร์ หรือ 1.3% แตะที่ 1,725.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 93.4 เซนต์ ปิดที่ 34.354 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 7.4 เซนต์ ปิดที่ 3.632 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 17.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 651.15 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 44.20 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,607.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายเงินเยน โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแข็งค่าของเงินเยนที่กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมส่งออกของญี่ปุ่น ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐจะทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์มีมูลค่าไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าเอ็มเอฟ โกลบอล โฮลดิ้งส์ บริษัทโบรกเกอร์สัญญาล่วงหน้าซึ่งลงทุนจำนวนมากในตราสารหนี้ยุโรปได้ยื่นขอล้มละลายตามมาตรา 11 ซึ่งนับเป็นความเสียหายมากที่สุดของสหรัฐจากวิกฤติหนี้ยูโรโซน นอกจากนี้ การซื้อขายหุ้นเอ็มเอฟ โกลบอลได้ถูกระงับด้วย
ตลอดเดือนต.ค.ที่ผ่านมา สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 6.3% หลังจากที่ร่วงลงทั้งสิ้น 11% ในเดือนก.ย.