ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: เยนร่วงหนักสุดในรอบ 3 เดือน หลังญี่ปุ่นแทรกแซงตลาด FX

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 1, 2011 07:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายสกุลเงินเยนเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแข็งค่าของเงินเยนที่กำลังสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของผู้นำยุโรป

ค่าเงินเยนร่วงลง 3.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 78.140 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 75.790 เยน ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.56% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8766 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.8631 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินยูโรร่วงลง 2.06% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3854 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4146 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6083 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6120 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0521 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0698 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.76% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8059 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8203 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินเยนร่วงลงหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเทขายสกุลเงินเยนเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแข็งค่าของเงินเยนที่กำลังสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

นายจุน อาซูมิ รมว.คลังญี่ปุ่นยืนยันว่า ทางการญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดจนกว่าสกุลเงินเยนจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจและเอื้ออำนวยต่ออุตสาหกรรมส่งออก และยอมรับว่าญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรเงินตราเพียงฝ่ายเดียวในครั้งนี้ พร้อมปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อวงเงินที่ใช้ในการแทรกแซงตลาด

การแทรกแซงตลาดเมื่อวานนี้นับเป็นการแทรกแซงครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่นในเวลา ไม่ถึง 3 เดือน โดยก่อนหน้านี้ผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นเคยกล่าวเตือนหลายครั้งว่า ญี่ปุ่นพร้อมที่จะดำเนินมาตรการสกัดกั้นการแข็งค่าของเยน โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะของผู้นำยุโรป แม้ผู้นำอียูมีมติให้ใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขนาดให้กับกองทุน EFSF เป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ก็ตาม

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า แรงกดดันด้านราคาที่ลดลงจะทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมวันอังคารนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่า มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนที่ธนาคารกลางออสเตรเลียจะลดดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนั่นอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง

ด้านสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ก็อ่อนค่าลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าข้อมูลอาจออกมาอ่อนแอ นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ต่างปรับตัวลง เนื่องจากตลาดยังคงมีความวิตกกังวลว่า วิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

สถาบันจัดการด้านอุปทานขอสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในชิคาโกร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 58.4 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 60.4 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 59 จุด

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค., ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 3, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ย., ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ