สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากความกังวลเรื่องปัญหาหนี้กรีซ หลังจากรัฐมนตรีกรีซประกาศว่าจะจัดทำประชามติเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการกู้วิกฤตหนี้ของประเทศหรือไม่
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.4 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,711.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.623 ดอลลาร์ ปิดที่ 32.731 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 12.95 เซนต์ ปิดที่ 3.5025 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 635 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 25.60 ดอลลาร์ ปิดี่ 1,582 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำร่วงลงอย่างหนัก หลังจากนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซประกาศว่า รัฐบาลกรีซจะจัดการทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงในมาตรการแก้ไขวิกฤติหนี้หรือไม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด และเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ผู้นำยุโรปได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซและยูโรโซน ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซในวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร และการปรับลดมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลกรีซลง 50%
ผู้นำยุโรป และประธานธนาคารโลกได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อกรณีที่รัฐบาลกรีซประกาศว่าจะจัดทำประชามติ โดยนายโรเบิร์ต โซลิก ประธานธนาคารโลกเตือนว่า หากชาวกรีซลงมติไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ก็จะทำให้กรีซเผชิญกับวิกฤตที่ร้ายแรง
ข่าวการทำประชามติของกรีซได้หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น และยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลงด้วย โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้น 1.07% แตะที่ 92.19 จุดเมื่อวานนี้