ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนตุลาคม เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ของโตโยต้ายังคงลดลงอย่างต่อเนื่องหลังเกิดภัยพิบัติเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
รายงานของออโต้ดาต้าระบุว่า ยอดขายรถยนต์โตโยต้าลดลง 7.9% สู่ระดับ 134,046 คัน อย่างไรก็ดี ตัวเลขที่ลดลงดังกล่าวยังน้อยกว่าเดือนกันยายนที่ร่วงลงถึง 17.5% ส่งผลให้โตโยต้ากลับขึ้นมารั้งอันดับที่ 3 ในตลาดรถยนต์สหรัฐ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 13.1%
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์โตโยต้าลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากยังประสบกับปัญหาอุปทานชิ้นส่วนขาดแคลน อันเป็นผลมาจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมีนาคม
ขณะที่ ยอดขายของบริษัทฮอนด้า มอเตอร์ ลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 98,333 คัน หลังจากที่ร่วงลง 8.0% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกือบจะฟื้นตัวจากยอดขายของบริษัทที่ร่วงลงนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ฮอนด้ากลับขึ้นมารั้งอันดับที่ 5 ที่สูญเสียไปให้กับนิสสัน มอเตอร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 9.6%
หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นได้กลับมาดำเนินการผลิตเต็มกำลังในอเมริกาเหนือเมื่อเดือนกันยายน แต่บริษัทก็ต้องลดกำลังการผลิตลงอีกครั้ง เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยทำให้ห่วงโซ่อุปทานต้องสะดุดลง ส่งผลให้มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นอาจจะได้รับผลกระทบอีกครั้ง หากยังได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 1,021,313 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบเป็นรายปี ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐจะยังมีความไม่แน่นอน
ในบรรดาค่ายรถ "บิ๊กทรี" ของสหรัฐ บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส ยังคงครองอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 186,895 คัน เพิ่มขึ้น 1.8% ด้วยส่วนแบ่งตลาด 18.3%
ยอดขายบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 6.2% สู่ระดับ 167,502 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 16.4% ยึดตำแหน่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองไว้อย่างเหนียวแน่น
บริษัทไครสเลอร์ กรุ๊ป แอลแอลซี มียอดขายที่ 112,547 คัน เพิ่มขึ้น 24.9% ครองส่วนแบ่งการตลาด 11.0% ขยับลงสู่อันดับที่ 4 ตามหลังโตโยต้า
ยอดขายรวมของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐทั้ง 3 แห่งเพิ่มขึ้น 8.3% สู่ 446,944 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 45.7% เมื่อเทียบกับ 48.1% ในเดือนกันยายน
ในส่วนของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น นิสสันยังคงมียอดขายที่แข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 18.0% สู่ระดับ 82,346 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 8.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 25.3% ในเดือนกันยายน
ด้านยอดขายบริษัทมาสด้า มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 1.7% สู่ 18,326 คัน ในขณะที่ยอดขายบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ลดลง 14.3% มาอยู่ที่ 4,378 คัน และยอดขายบริษัทซูซูกิ มอเตอร์ อยู่ที่ 1,947 คัน ลดลง 4.7%
บริษัทฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ ผู้ผลิตรถยนต์ซูบารุ ยังมียอดขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลง 11.6% สู่ 20,081 คัน หลังจากที่ลดลง 2.3% ในเดือนกันยายน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน