นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มั่นใจว่าจะขยายตัวเกิน 2% แน่นอนคงไม่ติดลบ โดยบางสำนักวิจัยยังมองเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ถึง 2.5% ส่วนปี 55 ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการน้ำ แต่ยอมรับเป็นห่วงกรณีที่หากบริษัทประกันไม่ยอมรับประกันภัยกรณีน้ำท่วม อาจจะส่งผลทำให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิตได้
ปัญหาเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการคือให้บริษัทประกันภัย โดยเฉพาะบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศให้ยอมรับการประกันภัยที่เกิดจากน้ำท่วม แต่ยอมรับว่าบริษัทประกันภัยต่อจะต้องเห็นแผนในการบริหารจัดการน้ำและมีความมั่นใจต่อแผนการแก้ปัญหาเสียก่อน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการ ส่วนหนึ่งจะดำเนินการผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่จะให้เกษตรกรปลูกข้าว 2 crop เพื่อให้มีนาว่าง 3-4 เดือนในช่วงฝนตกชุก เพื่อจะได้เร่งระบายน้ำได้
และในเร็วๆนี้ รัฐบาล โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะมีกระบวนการวางแผนในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ทุกฝ่าย ทั้งนักลงทุน บริษัทประกัน และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งกระบวนการทำงานจะเป็นการจัดทำแผนแม่บท โดยต้องอาศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำ โดยกระทรวงการคลังพร้อมที่จะจัดหาแหล่งเงิน หากมีโครงการลงทุนในการบริหารจัดการน้ำ
"จุดหลักคือต้องทำให้บริษัทประกันสบายใจว่ามีการบริหารจัดการน้ำ ตอนนี้บริษัทประกันรับประกันทุกด้านยกเว้นน้ำท่วม ...ถ้าบริษัทไม่รับประกัน risk management ก็จะเป็นจุดโหว่ ธุรกิจก็จะเป็นปัญหา กลัวว่านักลงทุนจะย้ายฐานการผลิต ตอนนี้ทำอย่างไรเพื่อให้ระบบการรับประกัน commercial กลับมาให้ได้" นายธีระชัย กล่าว
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ นายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) เร่งเดินทางเจรจากับบริษัทรับประกันภัยต่อในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น และบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจและยอมรับการรับประกันภัยจากน้ำท่วม
ด้านปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้ นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งที่ถูกน้ำท่วมและธุรกิจหยุดชะงัก มีการทำประกันภัยวงเงินรวม 6 แสนล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะมีการเรียกค่าชดเชยความเสียหาย 30% หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในญี่ปุ่นที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันภัยมีความพร้อมในการจ่ายเงินชดเชยโดยไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีประเด็นปัญหาจากบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับความเสี่ยงจากน้ำท่วมในรอบต่อไป ที่รัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนในการป้องกันความเสี่ยงจากน้ำท่วม เพื่อให้มีการรับประกันภัยที่เหมาะสม ซึ่ง รมว.คลังได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานที่ประชุม ครม.แล้ว เพราะเป็นปัญหาที่ยังไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการได้ง่าย
"เม.ย.ก็มีความเสี่ยงน้ำท่วมอีก ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดการ โดยมีการจัดสินเชื่อ 15,000 ล้านบาทเพื่อสร้างเขื่อนให้ 7 นิคมฯ ซึ่งจะเป็นมาตรการป้องกันและได้คุยกับบริษัทประกันแล้ว หวังว่าจะสร้างความเชื่อมั่นได้ ส่วนการประกันภัยบ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งตอนนี้บ้านถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น บริษัทที่รับประกันภัยต่อก็ลำบากเริ่มมีปัญหา ซึ่ง คปภ.หาแนวทางแก้ไขอยู่" ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/54 มีโอกาสติดลบได้ แต่ทั้งปีเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ในอัตรา 2.7% โดยสถานการณ์น้ำท่วม ณ ขณะนี้ ที่น้ำท่วมใน 7 นิคมอุตสาหกรรม เป็นมูลค่าความเสียหาย 180,000 ล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวลดลง 1.7%