นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำข้าว คาดว่าในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ จะมีข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 54/55 ประมาณ 10 ล้านตันข้าวเปลือก เพราะผลผลิตข้าวจะออกมากในช่วง 2 เดือนนี้ ประกอบกับ พื้นที่น้ำท่วมเริ่มทุเลาลง เกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวได้แล้ว จึงต้องเตรียมความพร้อมของโรงสีให้เพียงพอกับปริมาณข้าวที่จะเข้ามา หลังจากในเดือนต.ค. มีข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำเพียง 300,000-400,000 ตันเท่านั้น เพราะปริมาณข้าวยังออกสู่ตลาดน้อย และเกิดปัญหาน้ำท่วม
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เร่งทำสัญญากับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการให้ครบตามเป้าหมายกว่า 700 แห่ง จากปัจจุบันที่มีโรงสีทำสัญญาแล้วประมาณ 400 โรง โดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ย.นี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวนา ที่จะนำข้าวมาร่วมโครงการ ส่วนการรับจำนำข้าวข้ามเขต โดยการอนุญาตให้โรงสีเข้าไปรับจำนำข้าวต่างพื้นที่นั้น จะพิจารณาเป็นกรณีตามความเหมาะสม และจะตั้งคณะทำงาน โดยมีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน พิจารณา พร้อมกำชับให้มีมาตรการป้องกันการนำเข้ามาปลอมปนกันนั้น
พร้อมยอมรับว่า ปัจจุบัน อคส.เหมือนเป็นจำเลยของสังคม เนื่องจากมักถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังสั่งการให้จัดทำแผนการจัดหารายได้ เพราะขณะนี้ มีหนี้สิ นสะสมหลายพันล้านบาท
"ผมได้สั่งการให้ อคส.ไปคิดมาว่า จะมีแผนการหารายได้ยังไงบ้าง เพราะมีหนี้สินสะสมจำนวนมาก แต่เบื้องต้น เห็นว่า สิ่งที่สามารถทำได้เลย เช่น การบริหารจัดการข้าวสารจำนวน 100,000 ตันที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อนุมัติให้นำมาทำข้าวถุงธงฟ้า ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้ส่วนหนึ่งประมาณ 50-100 ล้านบาท"นายภูมิ กล่าว
ส่วนการคัดสรรผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่นั้น นายภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดสรร คาดจะได้ตัวผู้อำนวยการคนใหม่เร็วๆ นี้
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวในขณะนี้ พบว่ายังทรงตัวและต่ำกว่าราคารับจำนำเฉลี่ยตันละประมาณ 3,000 บาท โดยข้าวขาวตันละ 12,000 บาท จากราคารับจำนำตันละ 15,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 17,000 บาท จากราคารับจำนำตันละ 20,000 บาท ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการสร้างกระแสข่าวในต่างประเทศว่าข้าวไทยเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ จนไม่สามารถส่งมอบได้ ทำให้ผู้ซื้อหันไปซื้อข้าวจากอินเดีย และเวียดนามแทน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ราคาข้าวควรจะสูงขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว