ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า ถึงแม้ว่ามูลค่าการค้ากับต่างประเทศของจีนจะทะลุหลัก 3 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่นักวิเคราะห์หลายรายก็ได้คาดการณ์ถึงภาวะการค้าที่ไม่สดใส อันเป็นผลเนื่องมาจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจทั่วโลก
กรมศุลกากรจีนรายงานว่า มูลค่าการนำเข้าและส่งออกเบื้องต้นของจีนพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความซับซ้อนและไม่สดใส ส่วนในระหว่างวันที่ 1 ต.ค.- 2 พ.ย.นั้น ข้อมูลสถิติของกรมศุลกากรระบุว่า มูลค่าการค้าของจีนกับต่างประเทศอยู่ที่ 3.2256 แสนล้านดอลลาร์ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 31.76 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จีนก้าวขึ้นมาเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกและผู้นำเข้ารายใหญ่อันดับสองของโลก โดยยอดการค้าระหว่างประเทศของจีนได้ทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2547 และแตะที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2550
ในช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวที่ 9.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมูลค่าการค้ากับต่างประเทศเพิ่มขึ้น 24.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 2.67 ล้านล้านดอลลาร์
เสิ่น ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าของจีนมีบทบาทอย่างมากต่อการเพิ่มศักยภาพให้กับเศรษฐกิจโลกและพัฒนาการด้านการค้า และจะยังเป็นส่วนสำคัญของบทบาทดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี นายเสิ่นกล่าวว่า เขาคาดว่าอัตราการเติบโตของมูลค่าการค้ากับต่างประเทศของจีนอาจจะลดลงในเดือนต่อๆ ไป เนื่องจากปัจจัยต่างๆ หลายประการ ซึ่งรวมไปถึงการหดตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศ และฐานในการเปรียบเทียบที่สูงขึ้นของปีที่แล้ว
ด้านหวัง เทา นักเศรษฐศาสตร์จากยูบีเอส ซิเคียวริตี้ส์คาดว่า อัตราการเติบโตต่อปีของมูลค่าการส่งออกของจีนจะปรับตัวลดลงสู่ระดับตัวเลขหลักเดียวในเดือนต่อๆ ไป นอกจากนี้ เธอยังคาดว่า อัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลหยวนจะแข็งค่าสู่ระดับ 6.2 หยวนต่อดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้
สถิติของกรมศุลกากรจีนระบุว่า อัตราการเติบโตของยอดส่งออกของจีนชะลอตัวลงสู่ 17.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในเดือนกันยายน จากที่ขยายตัว 24.5% ในเดือนสิงหาคม
ส่วนยอดการนำเข้าของจีนในเดือนกันยายนของจีนขยายตัว 20.9% จากปีก่อน เมื่อเทียบกับที่ขยายตัวที่ 30.2% ต่อปี ในเดือนสิงหาคม
หลี่ เจี้ยน นักวิจัยจากไชน่า อคาเดมี ออฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรด แอนด์ อิโคโนมิค โคโอเปอเรชั่น กล่าวว่า ภาวะการส่งออกของจีนอาจจะไม่สดใสในปี 2555 เนื่องจากอุปสงค์จากสภาพยุโรปและสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายสำคัญของจีนนั้น หดตัวลง รวมทั้งปัจจัยลบจากการเพิ่มการกีดกันทางการค้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน