นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มนำเงินสดมาฝาก ธปท.มากขึ้น โดยปริมาณธุรกรรมการฝาก-ถอนอยู่ที่ 2,000-3,000 ล้านบาท/วัน เกือบใกล้ระดับปกติ จากสัปดาห์ก่อนมีการเร่งเบิกถอนอย่างมาก โดยเฉพาะวันที่ 28 ต.ค.54 เพียงวันเดียวที่เบิกถอนสูง 20,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6-7 เท่า แต่ขณะนี้ธนาคารหลายแห่งลดความกังวลจากสถานการณ์น้ำท่วม ที่เคยกังวลว่าน้ำจะอยู่ในระดับสูงจนไม่สามารถเบิกถอนเงินเพื่อสำรองแก่ประชาชนได้ ประกอบกับมีการปิดให้บริการเครื่องเอทีเอ็ม 4,000 กว่าเครื่องจึงมีเงินเหลือ
“ตอนนั้นแบงก์ panic มาก กลัวน้ำท่วมสูงจนเบิกเงินจากแบงก์ชาติไม่ได้ ก็เลยเร่งทำธุรกรรมแต่ตอนนี้อาการเหล่านั้นลดลงก็เลยกลับมาฝากมากกว่าถอนเช่นเดิม เพราะการถือเงินสดในมือที่ปริมาณที่มากจากมันมีความเสี่ยงสูง"นายนพพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าศูนย์จัดการธนบัตรศูนย์ใหญ่ที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รวมถึงศูนย์จัดการธนบัตรจ.ระยองและจ.นครราชสีมายังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ เพียงแต่อาจไม่สะดวกจากการเดินทางมาเบิกถอนเงินเท่านั้นเนื่องจากน้ำท่วมถนน
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน ธนาคารทหารไทย (TMB) สำนักงานใหญ่ พหลโยธิน และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) สาขาพลโยธินว่าระบบธนาคารยังไม่มีปัญหาสามารถให้บริการได้ตามปกติแม้ว่าน้ำจะเข้าท่วมธนาคารแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรณี 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ คือสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทยเสนอให้ ธปท.เลื่อน การบังคับใช้เกณฑ์กำหนดสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน(LTV)สำหรับบ้านแนวราบที่จะมีผลบังคับใช้เดือน ม.ค.55 เพื่อช่วยเหลือในการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนนั้น แต่เบื้องต้นได้ให้ส่งคำมาให้ธปท.พิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากต้องดูในข้อเท็จจริง รายละเอียดความเสียหายของที่อยู่อาศัยแนวราบและอาคารชุด และหลังน้ำลดจะมีการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด