นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 10 พ.ย.นั้น จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.62 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 4.56 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้าของสหรัฐ
ยอดส่งออกของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจจีนและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ของสหรัฐ ชะลอตัวลง โดยในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คนใหม่ยอมรับว่า เศรษฐกิจยูโรโซนเริ่มเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว ขณะที่จีนเปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขยายตัวที่ระดับ 50.4 จุดในเดือนต.ค. ลดลง 0.8 จุดจากเดือนก.ย.ที่ขยายตัว 51.2 จุด
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนก.ย.ในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.
ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการคำนวณผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นอกจากนี้ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งยังมีอิทธิพลต่อการประเมินวงจรทางธุรกิจและการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วย