รัฐมนตรีคลังของ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนได้เรียกร้องให้อิตาลีเร่งบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัด เพื่อฟื้นฟูสถานะการคลังของประเทศ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเหนือระดับสูงสุดของยุโรปที่ 6.6% อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนจะทวีความรุนแรงขึ้น
นอกจากนี้ รมว.คลังยูโรโซนยังเห็นชอบร่วมกันในการสรุปแผนการเสริมสร้างศักยภาพของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และเห็นชอบให้กองทุน EFSF เริ่มดำเนินการปล่อยกู้ให้กับประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สินในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ เป็นที่หวั่นวิตกกันมากขึ้นว่า อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยูโรโซน อาจจะเป็นประเทศต่อไปที่จะเผชิญวิกฤตหนี้ต่อจากกรีซ หลังจากต้นทุนการกู้ยืมของอิตาลีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542
ส่วนประเด็นของกรีซนั้น รมว.คลังยูโรโซนได้เรียกร้องให้พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านของกรีซซึ่งตกลงกันได้ในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีเอกภาพเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ให้ยื่นหนังสือเพื่อแสดงคำมั่นสัญญาว่าจะบังคับใช้มาตรการรับความช่วยเหลือจากยุโรป เพื่อให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังยูโรเปิดเผยว่า กรีซจะได้รับเงินกู้เบิกจ่ายงวดที่ 6 มูลค่า 8 พันล้านยูโรภายในช่วงปลายเดือนพ.ย. หลังจากที่ผู้นำยุโรปได้รับหนังสือแสดงคำมั่นสัญญาจากกรีซแล้ว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน