สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) ขานรับข่าวที่ว่านายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากรัฐสภาอิตาลีลงมติอนุมัติกฎหมายปฏิรูปงบประมาณ
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.49% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3842 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3775 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.34% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6103 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6049 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.46% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.690 เยน จากระดับ 78.050 เยน และร่วงลง 0.70% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8945 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9008 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0398 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0371 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7981 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ0.7969 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีอิตาลีประกาศว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรอิตาลีมีมติรับรองร่างกฏหมายปฏิรูปงบประมาณ ซึ่งการประกาศลงจากตำแหน่งของนายแบร์ลุสโคนีทำให้นักลงทุนมองว่าจะช่วยลดอุปสรรคในการปฏิรูปเศรษฐกิจ และจะช่วยให้อิตาลีสามารถจัดการกับปัญหาหนี้ได้
รัฐสภาอิตาลีมีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณ แต่เนื่องจากนายแบร์ลุสโคนีได้รับคะแนนเสียงในรัฐสภาต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนที่นั่ง 630 เสียงในรัฐสภา จึงทำให้ทั้งพรรคฝ่ายค้านและพรรคที่เป็นพันธมิตร เรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง เพื่อลดกระแสความวิตกกังวลที่ว่าอิตาลีอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของเยอรมนีในเดือนก.ย.ขยายตัว 0.9% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. ซึ่งการขยายตัวของการส่งออกนั้น สวนทางกับสัญญาณอื่นๆที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี
เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนายชาร์ลส์ คอลลีนส์ รมช.คลังฝ่ายการเงินระหว่างประเทศของสหรัฐ ระบุว่า ตลาดปริวรรตเงินตรายังคงมีกลไกที่เป็นระเบียบ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐมีความรู้สึกไม่พอใจต่อกรณีที่ทางการญี่ปุ่นตัดสินใจแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย., ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนพ.ย.