บริษัท โตเกียว โชโก รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสินเชื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า จำนวนบริษัทญี่ปุ่นที่ล้มละลายในเดือนตุลาคมลดลง 14.1% จากปีที่แล้ว แตะที่ 976 แห่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปีก่อนๆ นับตั้งแต่เกิดภาวะฟองสบู่แตกในปี 2535 เนื่องจากรัฐบาลช่วยเพิ่มกระแสเงินสดให้กับธุรกิจขนาดย่อม
สำหรับหนี้สินของบริษัทที่ล้มละลายในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 1.5588 แสนล้านเยน หรือลดลงถึง 70% เนื่องจากจำนวนบริษัทขนาดใหญ่ที่ล้มละลายมีน้อยลงมาก
โดยจำนวนบริษัทล้มละลายที่มีหนี้สิน 1 พันล้านเยนขึ้นไปลดลง 33.3% เหลือ 30 แห่ง และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 ที่ไม่มีบริษัทล้มละลายที่มีหนี้สิน 1 หมื่นล้านเยนขึ้นไป
อุตสาหกรรม 9 จาก 10 ภาคส่วนมีจำนวนบริษัทล้มละลายลดลงในเดือนตุลาคม หนึ่งในจำนวนนั้นคือภาคการผลิตที่จำนวนบริษัทล้มละลายลดลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันแล้ว
สำหรับบริษัทที่ล้มละลายเพราะแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม มีอยู่ 45 แห่งในเดือนตุลาคม ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 แห่งเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนจำนวนบริษัททั้งหมดที่ล้มละลายเพราะภัยพิบัติดังกล่าวอยู่ที่ 425 แห่ง
ขณะเดียวกัน เทย์โกกุ ดาต้าแบงก์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยอีกแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า จำนวนบริษัทล้มละลายในเดือนตุลาคมลดลง 5.6% แตะที่ 906 แห่ง ขณะที่หนี้สินร่วงลง 73.5% แตะที่ 1.3292 แสนล้านเยน
ทั้งนี้ ผลสำรวจของทั้งสองบริษัทครอบคลุมบริษัทล้มละลายที่มีหนี้สิน 10 ล้านเยนขึ้นไป และผลสำรวจของเทย์โกกุ ดาต้าแบงก์ ครอบคลุมบริษัทล้มละลายที่มีการฟ้องร้องในศาลเท่านั้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน