รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานเดือนก.ย.ของภาคเอกชนญี่ปุ่น หดตัวลง 8.2% จากเดือนส.ค. สู่ระดับ 7.386 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความอ่อนแอของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและยานยนต์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้อเรือและอุปกรณ์ด้านสาธารณูปโภคนั้น ถือเป็นดัชนีวัดตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.ย.ยังออกมาสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลดลง หลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง 11% ในเดือนส.ค.
ส่วนยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในไตรมาส 3 ปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 ไตรมาส และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัวลง 3.8%
รายงานของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า การแข็งค่าของเงินเยน ประกอบกับความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจโลก จะยังคงสร้างแรงกดดันต่อการส่งออกของภาคเอกเชน และอาจจะทำให้กลุ่มผู้ผลิตชะลอการลงทุนซื้ออุปกรณ์และสร้างโรงงานใหม่ๆ
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรในญี่ปุ่นกำลัง "แกว่งตัว" ซึ่งถือเป็นการปรับลดการประเมินยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2553 ซึ่งในครั้งนั้นรัฐบาลระบุว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร "กระเตื้องขึ้น"