นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการรับจำนำข้าว เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เปิดรับจำนำข้าววันที่ 7 ต.ค.เป็นต้นมาได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่าโรงสีที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้มีข้าวเข้าโครงการจำนำต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ที่ประชุมฯ จึงเห็นชอบให้โรงสีสามารถข้ามเขตไปรับจำนำข้าวในภาคอื่นได้ หากในพื้นที่มีโรงสีเข้าร่วมโครงการไม่เพียงพอ โดยล่าสุดได้อนุญาตให้โรงสีจากภาคกลางเข้าไปรับจำนำข้าวใน จ.ลำพูนได้แล้ว
ส่วนการกระทำทุจริตอื่นๆ นั้นยังไม่พบการกระทำผิดร้ายแรงถึงต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และล่าสุดมีโรงสีเข้าร่วมโครงการเพียง 360 รายจากที่ยื่นจำนงไว้ 700 ราย และยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1,000 ราย เพื่อให้รองรับการจำนำข้าวได้ถึง 25-26 ล้านตัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้ปรับหลักเกณฑ์การรับจำนำใหม่ในด้านปริมาณการรับจำนำตามที่เกษตรกรร้องขอ โดยเปิดรับจำนำเต็มจำนวนตามตัวเลขผลผลิตสูงสุดของแต่ละจังหวัดที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วคูณกับจำนวนไร่ที่ชาวนาครอบครองจริง ซึ่งทำให้ได้ตัวเลขใกล้เคียงกับผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้มากที่สุด จากเดิมจะคิดจากค่าเฉลี่ยผลผลิตรวมทั้งประเทศได้ประมาณ 550 กก.ต่อไร่ แต่บางพื้นที่ค่าเฉลี่ยสูงถึง 800-1,000 กก.ต่อไร่ ซึ่งหากรายใดมีการจำนำข้าวในปริมาณที่สูงกว่าตัวเลขผลผลิตสูงสุดก็ให้เกษตรกรรายนั้นลงนามรับรองรับรองตนเอง หากตรวจพบว่าเป็นการแจ้งข้อมูลเท็จในภายหลังจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการนำเข้าจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ์เข้าโครงการ