สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า การผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ทั่วโลกอาจสูงกว่า 70% ภายในปี 2578 เนื่องจากหลายประเทศ ซึ่งรวมไปถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ยังไม่พิจารณาทบทวนนโยบายด้านนิวเคลียร์ใหม่ ถึงแม้ว่าจะจากเกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ ของญี่ปุ่น
ในรายงาน "แนวโน้มพลังงานโลก" ซึ่งคาดการณ์ถึงอุปสงค์ด้านพลังงานในระยะยาวของ IEA ระบุว่า สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ต่อการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานอื่นๆ อาจจะลดลงอย่างมากหากการเกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้าของบริษัทโตเกียว อิเล็คทริค เพาเวอร์ โค หรือ เทปโก กระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ลดการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ลง
IEA ระบุว่า ในกรณีที่การเติบโตของสัดส่วนพลังงานนิวเคลียร์ลดลงครึ่งหนึ่ง พลังงานหมุนเวียนก็อาจจะขยายตัวขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ความพยายามในการต่อสู้กับโลกร้อนอาจจะสะดุดลง เนื่องจากการพึ่งพาเชื้อเพลิงจากฟอสซิสมากขึ้น รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ
นอกจากนี้ IEA ยังได้เรียกร้องให้มีการเร่งดำเนินการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน โดยระบุว่า ความล่าช้าในการดำเนินการเป็นเศรษฐกิจที่ไม่แท้จริง
"การลงทุนทุกๆ 1 ดอลลาร์ในเทคโลโยลีสะอาด ซึ่งอุตสาหกรรมพลังงานได้หลีกเลี่ยงในช่วงก่อนปี 2563 อาจทำให้ต้องลงทุนเพิ่ม 4.30 ดอลลาร์ภายหลังจากปี 2563 เพื่อชดเชยการปล่อยมลภาวะที่เพิ่มขึ้น" IEA ระบุ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน