Mr.Osamu Masuko ประธานกรรมการบริหารบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น(ประเทศญี่ปุ่น) เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยมคารวะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า บริษัทฯ จะสามารถกลับมาเริ่มเดินเครื่องอย่างเต็ม 100% ในการผลิตรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.นี้ หลังจากโรงงานผลิตที่แหลมฉบังได้หยุดการผลิตไปตั้งแต่เดือน ต.ค.54 เนื่องจากซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า และสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยจะเริ่มผลิตรถกระบะ และรถปาเจโรสปอร์ต ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หยุดการผลิตจากปัญหาน้ำท่วมไป 23,000 คัน และเชื่อว่าจะเร่งการผลิตได้ครบทั้ง 23,000 คัน ภายในรอบปีการผลิตของบริษัทในเดือน มี.ค.55 ขณะเดียวกันยังมีความมั่นใจต่อการลงทุนในประเทศไทยต่อไป
ประธานกรรมการบริหาร มิตซูบิชิฯ กล่าวด้วยว่า หลังจากได้หารือกับ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม แล้วได้รับความมั่นใจว่าจะดูแลไม่ให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตของบริษัทฯ สำหรับชิ้นส่วนการผลิตในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนั้น บริษัทฯ จะนำเข้าชิ้นส่วนดังกล่าวมาจากต่างประเทศเพื่อทดแทนชิ้นส่วนที่เสียหายจากเหตุน้ำท่วม
พร้อมกันนี้ ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้แก่นายกรัฐมนตรีเป็นจำนวน 12 ล้านบาท โดยได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณในความช่วยเหลือเมื่อตอนที่ประเทศญี่ปุ่นประสบกับเหตุสึนามิ และเมื่อประเทศไทยประสบกับอุทกภัยเช่นนี้ ทางญี่ปุ่นก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ด้าน นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้รับคำยืนยันจากมิตซูบิชิว่าจะไม่ย้ายฐานการผลิตรถยนต์ออกจากประเทศไทย และบริษัทฯ ไม่ได้มีข้อเรียกร้องใดๆ โดยหลังจากที่ได้หารือร่วมกันแล้ว รัฐบาลได้ให้ความมั่นใจรวมถึงชี้แจงมาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภาพรวม รวมถึงมาตรการระยะยาวในการฟื้นฟูและดูแลผู้ประกอบการ ซึ่งรัฐบาลจะพยายามดูแลนิคมอุตสาหกรรมที่เหลือไม่ให้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม