ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรดีดขึ้นเทียบดอลล์ หลังบอนด์ยีลด์อิตาลีลดลง

ข่าวต่างประเทศ Friday November 11, 2011 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในยุโรป รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7% และรัฐบาลอิตาลีประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตร

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.44% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3606 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3546 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.06% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5933 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5923 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.22% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.640 เยน จากระดับ 77.810 เยน และดิ่งลง 0.33% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9060 ฟรังค์ จากระดับ 0.9090 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.02% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0150 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0148 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.63% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7769 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7818 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 12 ปีได้สูงถึง 5 พันล้านยูโร (6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นยอดขายพันธบัตรรัฐบาลในวงเงินสูงสุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของอิตาลีปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะด้านการคลังของอิตาลี

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สกุลเงินยูโรได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากที่นายลูคัส ปาปาเดมอส ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของกรีซ แทนนายจอร์จ ปาปันเดรอู โดยนายปาปาเดมอสเคยเป็นอดีตรองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในตลาดทุนและตลาดเงินของยุโรป

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากความคืบหน้าในด้านบวกของยุโรป ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินที่ปลอดภัยอย่างสกุลเงินดอลลาร์ และหันไปลงทุนในสกุลเงินที่มีความเสี่ยงมากกว่า

ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 พ.ย. ลดลง 10,000 ราย แตะ 390,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ของสหรัฐลดลง 4% มาอยู่ที่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะอยู่ที่ 61.5 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 60.9 จุดของช่วงท้ายเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ