หยี เสี่ยวจุน ผู้แทนถาวรของจีนในองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) กล่าวในการเสวนาสาธารณะ ที่สำนักงานใหญ่ดับเบิลยูทีโอว่า ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ยอดการนำเข้าของจีนจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวจนทะลุ 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงาน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มความพยายามที่จะเพิ่มการนำเข้า ซึ่งได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
นายหยีกล่าวว่า การนำเข้าของจีนเพิ่มขึ้น 4.7 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างความหลากหลายให้กับการบริโภคในประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างโอกาสในการจ้างงานให้กับประเทศอื่นๆได้อีกมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเข้าของจีนจากกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาที่สุดได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 24% ในระหว่างปี 2543-2552 และนับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา จีนกลายเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับประเทศในกลุ่มด้อยพัฒนา โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 23% ของการส่งออกทั้งหมดของกลุ่มประเทศเหล่านี้
นอกจากการนำเข้าแล้ว การลงทุนของจีนในต่างประเทศก็ขยายตัวอย่างอู้ฟู่ โดยในปี 2546 จีนมีการลงทุนโดยตรงในต่างแดน 2.8 พันล้านดอลลาร์ และในปี 2553 ตัวเลขปรับขึ้นเป็น 7.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในประเทศที่กำลังพัฒนา
สำหรับงานเสวนาครั้งนี้จัดขึ้นร่วมกันระหว่างศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ไอทีซี) และดับเบิลยูทีโอ เพื่อหารือในหัวข้อ “บทบาทของจีนในการจัดระเบียบโลกใหม่" โดยมีแพทริเชีย ฟรานซิส ผู้อำนวยการบริหารไอทีซี และปาสคาล ลามี ผู้อำนวยการทั่วไปของดับเบิลยูทีโอเข้าร่วมงานด้วย