ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโรหลังอิตาลีผ่านแผนรัดเข็มขัด

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) หลังจากที่วุฒิสภาอิตาลีอนุมัติร่างกฏหมายว่าด้วยมาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายของภาครัฐเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปรับตัวสูงขึ้น

ค่าเงินยูโรแข็งขึ้น 1.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3751 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1.3601 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินปอนด์ก็แข็งค่า 0.87% เมื่อเทียบดอลลาร์ ที่ระดับ 1.6072 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.5933 ดอลลาร์/ปอนด์

เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง 0.72% เมื่อเทียบเงินเยนที่ 77.110 เยน/ดอลลาร์ จาก 77.670 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนค่า 0.56% เมื่อเทียบเงินฟรังค์สวิส ที่ระดับ 0.9010 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ จาก 0.9061 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์

ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่า 1.31% เทียบดอลลาร์สหรัฐที่ 1.0281 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 1.0148 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งขึ้น 1.15% เทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.7857 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.7768 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วุฒิสภาอิตาลีอนุมัติร่างกฏหมายว่าด้วยมาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายของภาครัฐเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ลาออกจากตำแหน่ง และคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะได้รับความเห็นชอบจากสภาล่างในวันเสาร์นี้ ข่าวดังกล่าวช่วยทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นและทำให้เงินยูโรแข็งค่า

ขณะเดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต้นเดือนพฤศจิกายนของธอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน พุ่งแตะ 64.2 จุด จากระดับ 60.9 จุดในเดือนตุลาคม ส่งสัญญาณว่าผู้บริโภคสหรัฐมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจมากกว่าเดิม เงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจึงอ่อนค่าลง