สำนักงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) เปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศในระยะยาวของธนาคารในเกาหลีใต้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนตุลาคม เนื่องจากธนาคารภายในประเทศแห่กู้เงินเพื่อสำรองเงินเอาไว้ เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
แถลงการณ์ผ่านทางอีเมล์ของ FSS ระบุว่า อัตราการต่ออายุของเงินกู้ยืมระยะยาวเมื่อครบกำหนด (rollover rate) สำหรับเงินกู้ต่างประเทศประเภทท 1 ปีของธนาคา 12 แห่งในประเทศ อยู่ที่ 299.3% ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 186.6% ในเดือนก่อนหน้านั้น
FSS ระบุว่า การพุ่งขึ้นครั้งใหม่ของยอดกู้ยืมเงินต่างประเทศส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสำรองทุนในระยะยาวในเชิงรุกธนาคารภายในประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์วิกฤติและการปิดบัญชีประจำปี
ทั้งนี้ อัตราการ rollover เป็นมาตรวัดเป็นเปอร์เซนต์เงินกู้ยืมใหม่จากต่างประเทศเมื่อเทียบกับหนี้สินต่างประเทศที่ครบกำหนดไถ่ถอนอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป โดยอัตราส่วนที่สูงกว่า 100% หมายถึงธนาคารเลือกที่จะต่ออายุเงินกู้ยืม มากกว่าการจ่ายชำระหนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงาน่า สถานการณ์การกู้ยืมเงินจากต่างประเทศของธนาคารเกาหลีใต้ฟื้นตัวเล็กน้อยในเดือนตุลาคม ขณะที่รัฐบาลยุโรปพยายามใช้นโยบายแก้ปัญหาวิกฤติหนี้สินและขยายการทำสว็อปสกุลเงินกับจีนและญี่ปุ่น โดยเกาหลีใต้ได้ขยายการสว็อปสกุลเงินกับจีนเป็น 3.6 แสนล้านหยวน (5.7 หมื่นล้านดอลลาร์) จาก 1.8 แสนล้านดอลลาร์ และขยายการทำสว็อปสกุลเงินกัญญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นสู่ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน