นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า หลังจากหลายพื้นที่ของประเทศต้องประสบปัญหาอุทกภัยเป็นระยะเวลานานส่งผลให้สถานีบริการ NGV ของ บมจ.ปตท.(PTT) กว่า 100 สถานี ต้องงดให้บริการเนื่องจากสถานีจ่ายก๊าซหลัก(Mother Station) สถานีบริการนอกแนวท่อ(สถานีลูก) รวมถึงเส้นทางการขนส่งก๊าซ NGV ได้รับความเสียหาย แต่ขณะนี้ปัญหาน้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลง ตนเองจึงได้มอบหมายให้ ปตท.เร่งฟื้นฟูสถานีบริการ NGV ที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วยการตรวจประเมินความพร้อมในการกลับมาให้บริการ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้รถ NGV
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.กล่าวว่า ปตท.ได้เร่งฟื้นฟูให้สถานีบริการ NGV ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยน้ำท่วม โดยได้เริ่มฟื้นฟูสถานีบริการ NGV อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในจำนวนสถานีบริการ NGV ที่ได้ผ่านการฟื้นฟูแล้ว คือ สถานีบริการ NGV ปตท.สาขานิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งเป็นสถานีประเภทแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติ(Conventional Station) ที่รับก๊าซธรรมชาติจากท่อส่งก๊าซฯ โดยตรง จึงมีก๊าซ NGV ให้บริการได้ตลอดเวลา ด้วยขนาดความสามารถในการให้บริการเติมก๊าซ NGV ผ่านตู้จ่ายได้สูงถึง 68 ตันต่อวัน ซึ่งก่อนประสบอุทกภัย สถานี NGV ดังกล่าวให้บริการกับประชาชนและผู้ประกอบการ ทั้งกลุ่มรถสาธารณะ รถบรรทุก รถส่วนบุคคล ด้วยปริมาณการจำหน่ายก๊าซ NGV สูงกว่า 45 ตันต่อวัน และได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนั้น ปตท.ยังมีแผนเร่งฟื้นฟูสถานีบริการ NGV แห่งอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด โดยหากพื้นที่ใดที่ประสบภัยน้ำท่วมและมีสถานี NGV ตั้งอยู่ เมื่อปริมาณน้ำลดลง ปตท.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจและประเมินสภาพความพร้อมในการเปิดให้บริการทันที โดยสถานีบริการ NGV ที่ต้องใช้เวลาฟื้นฟู 1-2 วัน จึงจะสามารถเปิดให้บริการมีทั้งหมด 66 แห่ง ขณะที่สถานีบริการจำนวน 29 แห่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูนานถึง 7 วันจึงจะเปิดให้บริการได้ และอีก 8 แห่งที่ประสบภัยน้ำท่วมหนักต้องใช้เวลาฟื้นฟูมากกว่า 7 วัน รวมสถานีบริการ NGV ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ทั้งสิ้น 103 สถานี จากจำนวนสถานี NGV ทั้งสิ้น 461 สถานีทั่วประเทศ(รวมสถานีจ่ายก๊าซหลัก)