World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554

ข่าวต่างประเทศ Monday November 14, 2011 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิออร์จิโอ นาโปลิตาโน ประธานาธิบดีอิตาลี ประกาศแต่งตั้งนายมาริโอ มอนติ อดีตคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลี แทนนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ที่ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการในช่วงค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวในอัตรา 6.0% ต่อปี ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวลงอย่างหนักอันเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่ามา

-- เว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน กล่าวแสดงความคิดเห็นในระหว่างการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐว่า การที่สหรัฐมียอดขาดดุลการค้ามูลค่ามหาศาล และมีอัตราว่างงานที่สูงมากนั้น ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวน และหากจีนผลักดันให้สกุลเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ก็ไม่ได้ช่วยให้สหรัฐแก้ปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน

-- -ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน ให้คำมั่นว่า จะกระตุ้นการส่งออก ในขณะที่เศรษฐกิจจีนนั้นกำลังมุ่งหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จ จากเดิมที่ขยายตัวไปพร้อมกับเงินเฟ้อ

-- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้ผู้นำประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) สนับสนุนการปฏิรูปค่าเงิน โดยกล่าวว่า ทุกประเทศจะต้องมีส่วนร่วมในการทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมามีความสมดุลอีกครั้ง

-- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยาของอินโดนีเซียรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวที่วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.4 ริกเตอร์ ที่เมืองเคปูลอน ซูลา ประเทศอินโดนีเซียในวันนี้

-- สำนักงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) เปิดเผยว่า ยอดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศในระยะยาวของธนาคารในเกาหลีใต้ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนตุลาคม เนื่องจากธนาคารภายในประเทศแห่กู้เงินเพื่อสำรองเงินเอาไว้ เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

-- กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดียเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของอินเดีย ซึ่งวัดโดยดัชนีราคาขายส่ง อยู่ที่ระดับ 9.73% ในเดือนตุลาคม ซึ่งขยับขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 9.72% ในเดือนกันยายน โดยเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ที่อัตราเงินเฟ้อต่อปีอยู่สูงกว่าระดับ 9%

-- นางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีเศรษฐกิจของออสเตรเลียเตือนว่า การตัดงบประมาณการใช้จ่ายกลางปีอาจจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่รัฐบาลพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาคำมั่นสัญญาว่าจะทำให้มียอดเกินดุลงบประมาณในปีหน้า

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ได้แสดงความไม่พอใจต่อนโยบายค่าเงินของจีน โดยกล่าวว่า จีนควรจะผลักดันให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาดให้รวดเร็วกว่านี้ และควรจะดำเนินการด้วยความรับผิดชอบ ในฐานะประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ