นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้การกู้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกน้ำท่วมมีความคืบหน้าไปมาก โดยกำลังเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ ซึ่งหลังจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์น้ำเริ่มแห้งสนิทแล้ว ได้มีโรงงาน 12 แห่งจากทั้งหมด 70 แห่งเริ่มกลับมาทำการผลิตแล้ว ซึ่งคาดว่าปลายเดือน พ.ย.หรือต้นเดือน ธ.ค.จะสามารถกลับมาทำการผลิตได้ทั้งหมด
ส่วนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินนั้นคาดว่าน้ำจะเริ่มแห้งราววันที่ 20-22 พ.ย.นี้ และวันที่ 1-5 ธ.ค.โรงงาน 60-70 แห่งจากทั้งหมด 90 แห่งจะสามารถกลับมาทำการผลิตได้ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคคาดว่าน้ำจะแห้งราววันที่ 25 พ.ย.และราวต้นเดือน ธ.ค.จะสามารถกลับมาทำการผลิตได้ ส่วนนิคมอุตสาหกรรมโรจนะขณะนี้อยู่ระหว่างการสูบน้ำออกจากพื้นที่ทั้ง 3 เฟส คาดว่าน้ำจะแห้งราววันที่ 30 พ.ย.และเริ่มทำการผลิตได้ราวต้นเดือน ธ.ค.เช่นกัน
ด้านนิคมสหรัตนนครยังมีระดับน้ำท่วมขังสูงกว่าคันกั้นน้ำ ซึ่งจะต้องดำเนินการเจาะถนนเพื่อระบายน้ำบริเวณบางปะหัน-บางเดื่อ หลังจากนั้นจะเริ่มสูบน้ำออกราวต้นเดือน ธ.ค.ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ระดับน้ำจึงจะแห้ง
รมว.พลังงาน ยังปฏิเสธข่าวผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครออกมาตำหนิรัฐบาลไม่มีความจริงใจ โดยยืนยันรัฐบาลมีความมีความตั้งใจที่จะดูแลสถานการณ์น้ำท่วมและผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ โดยต้องรอให้การกู้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน
ส่วนการดูแลพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังและบางชันนั้นระดับน้ำทรงตัว ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วมเพิ่มเติมอีก
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ทางไจก้าจะส่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 10 เครื่องมาช่วยฟื้นฟูพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเครื่องสูบน้ำดังกล่าวจะส่งมาถึงท่าเรือแหลมฉบังในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ซึ่งกระทรวงฯ จะกระจายส่งไปยังพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ