สำนักงานบริการด้านศุลกากรของเกาหลีใต้ (KCS) เปิดเผยในวันนี้ว่า เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้าปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 4.1 พันล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. จากระดับ 1.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. เนื่องจากยอดส่งออกไปยังประเทศตลาดเกิดใหม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ยอดเกินดุลการค้าของเกาหลีใต้ขยายตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 21 แม้เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปก็ตาม
รายงานของ KCS ระบุว่า ยอดส่งออกเดือนต.ค.ของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 4.68 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รถยนต์ และผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าที่ทะยานขึ้น 31.1%, 16.9% และ 16.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี
หากพิจารณาเป็นรายประเทศพบว่า ยอดส่งออกสินค้าจากเกาหลีใต้ไปยังญี่ปุ่นและประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้น 24.7% และ 19.4% ตามลำดับในเดือนต.ค. ขณะที่ยอดส่งออกไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น 14.6% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.19 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐ หดตัวลง 20.3% และ 3.6% ตามลำดับในเดือนต.ค. เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปและความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับภาวะขาลง
ส่วนยอดการนำเข้าขยายตัว 15.6% สู่ระดับ 4.28 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวซินหัวรายงาน