กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่เดือนก.ย.มีการปรับตัวขึ้นมาแล้ว 1.1% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ยังออกมาสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ทำให้ยอดค้าปลีกตลอดระยะเวลา 12 เดือนนับจนถึงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.2%
รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด มาจากยอดขายในกลุ่มยานยนต์และวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถชดเชยการลดลงของยอดค้าปลีกน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการทั่วประเทศ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะก้าวเข้าสู่ไตรมาส 4 อย่างคึกคัก
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกในกลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. ต่อเนื่องจากเดือนก.ย.ที่พุ่งขึ้น 4.2% ส่วนยอดค้าปลีกสินค้านอกหมวดยานยนต์เพิ่มขึ้น 0.6% นับเป็นตัวเลขที่ปรับขึ้นแรงที่สุดในรอบ 7 เดือน
ส่วนยอดขายอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% ยอดค้าปลีกผลิตภัณฑ์กีฬา สันทนาการ หนังสือและดนตรีขยับขึ้น 1.3% ขณะที่ยอดค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์และเครื่องมือเครื่องใช้เพิ่มขึ้น 3.7% และยอดค้าปลีกวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1.5%
อย่างไรก็ดี ยอดขายเสื้อผ้าหดตัวลง 0.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ต. 2553 เป็นต้นมา ขณะที่ยอดค้าปลีกสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ลดลง 0.7% และยอดค้าปลีกที่สถานีบริการน้ำมันเบนซินหดตัวลง 0.4% ในเดือนต.ค.