นายเฉิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) เปิดเผยวันนี้ว่า อุตสาหกรรมการส่งออกจีนได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก การกีดกันทางการค้า และต้นทุนภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
“เราไม่สามารถคาดหวังกับสถานการณ์ส่งออกในอนาคตได้" นายเฉินกล่าว
ทั้งนี้ เขายกปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกจีน อาทิเช่น ระดับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง การปรับลดความน่าเชื่อถือของสหรัฐ และวิกฤตหนี้ยุโรปที่ขยายวงกว้าง นอกจากนี้ แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ขยายตัว และการที่เศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนามีความเสี่ยงที่จะ "ดิ่งลงอย่างรุนแรง" ยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
นายเฉินกล่าวว่า มาตราการกีดกันทางการค้าที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งและข้อพิพาททางการค้า “ค่อนข้างมีผลกระทบอย่างมาก" ต่อการส่งออกของจีน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมส่งออกของจีนยังเผชิญกับปัญหาต่างๆ รวมถึงต้นทุนภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลแง่ลบต่อทิศทางการค้าระหว่างประเทศของจีน
ตามข้อมูลตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่า ยอดการค้าระหว่างประเทศของจีนประจำเดือนตุลาคมลดลง 8.3% จากเดือนกันยายนมาอยู่ที่ 2.9795 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงเพิ่มขึ้น 21.6% เมื่อเทียบรายปี
ยอดการส่งออกเดือนต.ค.ชะลอตัว 7.2% เมื่อเทียบรายเดือน มาอยู่ที่ 1.5749 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 9.5% เมื่อเทียบรายเดือน มาอยู่ที่ 1.4046 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน